ใช่หรือไม่? ใส่ผ้าอนามัยนาน ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูก

0

ใช่หรือไม่? ใส่ผ้าอนามัยนาน ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูก

 

จุดซ่อนเร้นถือเป็นพื้นที่อ่อนโยนและมีโอกาสติดเชื้อโรคได้สูง ฉะนั้น การดูแลสุขอนามัยบริเวณจุดซ่อนเร้นอย่างถูกวิธีจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะช่วงที่มีประจำเดือน ล่าสุดมีกระแสข่าวทางสื่อออนไลน์ ระบุว่า “ใส่ผ้าอนามัยนานทำให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก” งานนี้จะชัวร์หรือมั่วนิ่มเรามีคำตอบ

 

ผผอนม

 

ข้อมูลจาก นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า มะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อ Human Papilloma Virus (HPV) และส่วนใหญ่มาจากเพศสัมพันธ์ผ่านการสัมผัสผิวหรือเยื่อบุของอวัยวะเพศ ผู้ที่มีคู่นอนหลายคนมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การสูบบุหรี่ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง จึงมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ดังนั้น ความเชื่อที่ว่าใส่ผ้าอนามัยแผ่นเดิมโดยไม่เปลี่ยนแผ่นใหม่แล้วจะทำให้เป็นโรคมะเร็งปากมดลูกนั้นเป็นความเชื่อที่ผิดโดยสิ้นเชิง

 

อย่างไรก็ตาม การใส่ผ้าอนามัยแผ่นเดิมเป็นเวลานานโดยไม่เปลี่ยนแผ่นใหม่ นอกจากจะทำให้จุดซ่อนเร้นอับชื้น ไม่สะอาดแล้ว ผ้าอนามัยจะกลายเป็นแหล่งรวมเชื้อโรค อาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเกิดเชื้อรา ทำให้มีอาการระคายเคือง อาการคัน หรือเชื้อเหล่านี้อาจแพร่ไปยังทางเดินปัสสาวะทำให้เกิดการอักเสบและเป็นโรคอื่น ๆ ตามมาได้ รวมถึงอาจเกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง ในช่องคลอดได้

 

วิธีใช้ผ้าอนามัยให้ถูกสุขอนามัย

  1. ล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนผ้าอนามัย โดยฟอกสบู่และเช็ดให้แห้งทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากภายนอกเข้าไปยังจุดซ้อนเร้น และไม่ให้เชื้อโรคจากผ้าอนามัยกระจายปนเปื้อนไปยังที่ต่าง ๆ
  2. เนื่องจากเลือดเป็นอาหารของเชื้อแบคทีเรีย จึงควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ เพื่อให้จุดซ่อนเร้นสะอาด ไม่อับชื้น โดยควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก ๆ 4 – 6 ชั่วโมง หรือตามปริมาณประจำเดือนที่มี ในวันมามากอาจเปลี่ยนบ่อยกว่าวันที่กำลังจะหมด
  3. เลือกใช้ผ้าอนามัยที่สะอาด ปลอดภัย และได้มาตรฐาน สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้หรือระคายเคืองง่าย ควรหลีกเลี่ยงผ้าอนามัยชนิดมีน้ำหอม เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองต่อจุดซ่อนเร้นได้
  4. อ่านวันหมดอายุก่อนใช้ผ้าอนามัย เนื่องจากผ้าอนามัยที่ยิ่งใกล้วันหมดอายุเท่าไรคุณภาพก็จะยิ่งลดลงเท่านั้น
  5. ไม่ควรเก็บผ้าอนามัยในที่อับชื้น เพราะจะทำให้เป็นเชื้อราได้ง่าย
  6. หลังจากเปลี่ยนผ้าอนามัยแผ่นเก่า ควรม้วนและห่อกระดาษให้มิดชิดก่อนทิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เลอะเทอะเปรอะเปื้อนหรือมีเชื้อโรคกระจายสู่สิ่งแวดล้อม

 

สำหรับวิธีล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น ในช่วงวันนั้นของเดือน ถ้าในตอนอาบน้ำก็ให้ใช้สบู่อ่อน ๆ และน้ำเปล่า ล้างทำความสะอาดเฉพาะภายนอก ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด รวมถึงไม่ควรใช้น้ำยาล้างเฉพาะจุดซ่อนเร้น เพราะอาจสร้างความระคายเคืองและทำลายแบคทีเรียตามธรรมชาติที่รักษาสมดุลของจุดซ่อนเร้นไว้ ส่งผลให้แบคทีเรียบางชนิดเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างผิดปกติ แล้วนำไปสู่การเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตลอดจนอาจทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้ง่าย

 

ทั้งนี้ หากพบความผิดปกติต่าง ๆ บริเวณอวัยวะเพศ เช่น คันในช่องคลอด ตกขาวมากจนผิดสังเกตหรือมีสีผิดไปจากเดิม อวัยวะเพศมีกลิ่น ฯลฯ ควรรีบไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *