“บอกกับใจตัวเองว่าเหนื่อยก็พัก ถ้าเขาไม่รักก็พอ ไม่ต้องคาดหวังไม่ต้องนั่งรอให้มันท้อหัวใจ บอกกับใจตัวเองว่าพอแล้วนะ จะรักเขามากเท่าไร ถ้าเขาไม่รักถ้าหากเขาไม่ใส่ใจ ปล่อยให้เขานั้นไปดีกว่า”
ยุคดิจิตอลแบบนี้หลายคนทำงานหัวฟู ไหนจะภารกิจมากมายทั้งทำงาน เรียนโทภาคค่ำ เข้ายิมฟิตหุ่น แล้วยังต้องหาเวลาออกไปสังคมอีก พอหมดวันก็แทบหมดแรง คำว่าเหนื่อยยังน้อยเกินไป ต้องบอกว่าร่างจะแหลกถึงจะใช่ ปล่อยไว้แบบนี้ นานไปจะเรื้อรัง
ถึงเวลาปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์อย่างจริงจังแล้วล่ะนะครับบบ!!!
ตาแพนด้าทุกวัน
การนอนน้อยนอกจากจะทำให้เหมดแรงแล้ว ยังเสี่ยงน้ำหนักขึ้นด้วย เวลาที่เรานอนไม่พอ การทำงานของฮอร์โมนที่ควบคุมความอยากอาหารก็จะแปรปรวน เลยมีแนวโน้มว่าเราจะกินมากขึ้นเพื่อปลุกให้ตัวเองตื่นและกระฉับกระเฉงอยู่ตลอดเวลา
แก้กันหน่อย!
นอนให้ได้อย่างน้อยเจ็ดชั่วโมงต่อคืน อย่าให้เกินเที่ยงคืน หรือควรนอนก่อนที่จะหมดวันนั้นเอง ทำให้ได้ทุกวัน การนอนเร็วตื่นเช้าเป็นนิสัย นาฬิการ่างกายจะได้เป็นปกติ
ได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ
ถ้ามัวแต่นั่งทำงานในออฟฟิศเช้ายันค่ำ หรือนอนแหมะดูซีรี่ส์เกาหลีตลอด ไม่ออกเดินเล่นข้างนอกบ้างระดับวิตามินดีในร่างกายจะต่ำเกิน ซึ่งจะส่งผลต่อระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกาย และทำให้เราหาวไม่หยุด
แก้กันหน่อย!
ถ้าเหนื่อยโดยไม่มีเหตุผลแล้วไปเช็คที่โรงพยาบาลแล้วตรวจพบว่าระดับวิตามินดีต่ำไปจริง ๆ ก็ให้มอสั่งวิตามินเสริมให้ กินกับมื้ออาหารเสมอนะ เพราะวิตามินดีจะดูดซึมกับไขมัน แล้วก็กินพวก ไข่ ปลา น้ำมันตับปลา และนมเยอะ ๆ
เอะอะก็โลว์คาร์บ
การที่เราได้รับคาร์โบไฮเดรตน้อยเกินไปจะทำให้มวลของกล้ามเนื้อแตกตัวออก และเมื่อกล้ามเนื้อเรามีมวลน้อยลง ก็จะเผาผลาญแคลอรี่โดยรวมได้น้อยลง เผลอ ๆ อ้วนขึ้นอีกนะ
แก้กันหน่อย!
แต่ละคนต้องการพลังงานไม่เท่ากัน แต่ยังไงทุกคนก็ต้องกินแป้งมื้อเช้ากับเที่ยง ถ้าใครเป็นโรคกลัวแป้งมาก ก็เลือกกินโฮลวีต หรือแป้งที่มีเขียนว่า “NO TRANS FAT”
ออกกำลังหนักแต่กินไม่พอ
ถึงร่างกายเราจะต้องการออกกำลังแต่การออกแรงมากกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อวัน และจำกัดอาหารไปด้วยนั้นอาทำให้หมดแรงเอาดื้อ ๆ
แก้กันหน่อย!
สังเกตร่างกายตัวเองให้ดี ๆ พักผ่อนบ้าง และจำไว้เลยว่าทุกหนึ่งชั่วโมงที่ออกกำลัง จะต้องกินชดเชยเพิ่ม 200-300 แคลอรี่ต่อวัน กินเป็นมื้อเล็ก ๆ เช่น ของว่าง หรือผลไม้กับชา กาแฟ หรือไม่กินข้าวกลางเพิ่มสักครึ่งทัพพี