สาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเรานอนไม่หลับหรือนอนดึก ส่วนใหญ่แล้วก็มาจากการเล่นสมาร์ทโฟนนั่นเอง เพราะเมื่อเราได้รับแสงสีน้ำเงินจากหน้าจอมากเกินไป จะไปกระตุ้นให้เรารู้สึกนอนไม่หลับและส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
จากการวิจัย พบว่า…
ผู้ที่เล่นสมาร์ทโฟนก่อนนอน มักจะนอนหลับยาก ทั้งยังเสี่ยงต่อโรคร้ายหลายๆ โรคด้วยกัน เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคซึมเศร้า เป็นต้น อีกทั้งยังทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย และขาดความกระปรี้กระเปร่าในระหว่างวันอีกด้วย ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะวัยเรียนและวัยทำงาน
ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหานอนไม่หลับ หรือปัญหาสุขภาพจากการนอนน้อยเกินไป คุณควรหยุดใช้สมาร์ทโฟนก่อนถึงเวลานอนเป็นเวลา 90 นาที หรือประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งนั่นเอง โดยระหว่างนั้นควรอาบน้ำให้สบายตัว หานมอุ่นๆ ดื่มสักแก้ว แล้วล้มตัวลงนอนบนที่นอน เมื่อถึงเวลาคุณก็จะค่อยๆ ง่วงและหลับไปเอง ซึ่งแรกๆ นั้นอาจจะยังมีอาการนอนไม่หลับ หรือกระวนกระวาย ไม่มีสมาธิอยู่บ้าง แต่เมื่อทำบ่อยๆ อาการติดสมาร์ทโฟนก็จะค่อยๆ หายไป แล้วคุณจะนอนตรงเวลามากขึ้นอย่างแน่นอน
ซึ่งก็สังเกตได้เลยว่า หลังจากได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอแล้ว ร่างกายจะมีความกระปรี้กระเปร่าขึ้น และรู้สึกสดชื่นเมื่อตื่นนอนตอนเช้า แถมสมองก็รู้สึกปลอดโปร่ง สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย สุขภาพดีแบบนี้ มาเลิกใช้สมาร์ทโฟนก่อนนอนกันดีกว่า
รู้แบบนี้แล้ว ใครที่มักจะเล่นสมาร์ทโฟนก่อนนอนเป็นประจำ หากไม่อยากให้สุขภาพพังล่ะก็ ควรเลิกนิสัยนั้นโดยด่วน โดยให้เก็บสมาร์ทโฟนไว้ก่อนเข้านอนเป็นเวลา 90 นาที หรือแม้แต่โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ก็ห้ามเปิด รับรองว่าหากทำได้ดังนี้ คุณจะกลายเป็นคนที่นอนตรงเวลามากขึ้น และมีสุขภาพดีจนใครๆ ก็ต้องอิจฉาเลยล่ะ แถมยังลดความเสี่ยงจากโรคร้ายต่างๆ ได้ดีอีกด้วย ง่ายๆ แบบนี้ลองทำกันดูนะ