Home Isolation คือ การแยกกักตัวที่บ้าน ผ่านระบบติดตามดูแลอาการ ทางเลือกในการรักษาผู้ป่วยโควิดอาการไม่รุนแรง หรืออยู่ในโรงพยาบาลมาแล้วอย่างน้อย 7-10 วัน สามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านต่อ โดยต้องผ่านความยินยอมของหมอ และความสมัครใจของผู้ป่วย และนี่คือขั้นตอนและข้อปฏิบัติในการแยกกักตัวที่บ้าน!
4 ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบการแยกกักตัวที่บ้าน
1. ใช้ชุดตรวจโควิด (Antigen Test Kit) ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ด้วยตัวเองหรือตรวจจากหน่วยตรวจโควิดเชิงรุก
2. หากผลตรวจเป็นบวก (ติดเชื้อ) และผู้ป่วยต้องการแยกกักตัวที่บ้าน ให้ติดต่อ 1330
3. เจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับ หลังจากจับคู่ผู้ป่วยกับคลินิกศูนย์บริการสาธารณสุขหรือโรงพยาบาลที่จะรับหน้าที่ดูแลผู้ป่วยระหว่างแยกกักตัวที่บ้าน
4. แพทย์ทำการพิจารณาผู้ป่วยอีกครั้ง หากไม่มีอาการ หรืออาการเล็กน้อย (ผู้ป่วยสีเขียว) จะสามารถเริ่มต้นเข้าสู่ระบบการแยกกักตัวที่บ้านได้ ทั้งนี้ การสิ้นสุดการแยกกักตัวที่บ้าน จะขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ผู้ดูแล
Antigen Test Kit คือ ชุดตรวจที่ใช้ตรวจหาโปรตีนหรือแอนติเจนของเชื้อก่อโรคโควิด-19 (SARS-CoV-2) แนะนำให้ซื้อจากสถานพยาบาล หรือร้านขายยาที่มีเภสัชกร สำหรับขั้นตอนในการทดสอบ Antigen ด้วยตัวเอง มีดังนี้
1. ทำความสะอาดมือ และความสะอาดพื้นที่ที่จะตรวจ รวมถึงสั่งน้ำมูก เคลียร์ช่องจมูก
2. Swab ซ้ายและขวา วน ข้างละ 5 ครั้ง พยายามให้โดนผนังจมูก
3. ใส่ไม้ที่พันสำลีไว้ในหลอดสารละลาย บีบหลอดให้แน่น เพื่อให้เซลล์ที่ก้านสำลีผสมกับน้ำยาให้มากที่สุด
4. วางแถบตรวจ นำสารละลายมาหยดที่ช่องแถบตรวจน้ำยา (จำนวนหยดแล้วแต่ยี่ห้อแนะนำ)
5. อ่านผลตรวจใน 15 นาที หากขึ้นทั้งสองขีดทั้ง T และ C แปลว่าผลเป็นบวก อย่างไรก็ตาม ตัว C ต้องขึ้นทุกครั้ง หากไม่ขึ้นแสดงว่าชุดตรวจมีปัญหา หรือหากทิ้งไว้นานเกิน 30 นาที บางครั้งจะขึ้นสองขีด ดังนั้น อย่าอ่านเกินเวลา
ข้อปฏิบัติของผู้ป่วยเมื่อแยกกักตัวที่บ้าน
1. ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับใคร รวมถึงแยกข้าวแยกสำรับ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ นอกจากนี้ควรใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่น แต่ถ้าจำเป็น ให้ใช้เป็นคนสุดท้าย ปิดฝาชักโครกก่อนกดน้ำ ทำความสะอาดโถสุขภัณฑ์ทันทีหลังใช้ด้วยน้ำยาฟอกฝ้าขาว
2. รักษาความสะอาดอยู่เสมอ ล้างมือเป็นประจำอย่างถูกวิธีอย่างน้อย 30 วินาที โดยเฉพาะหลังการไอจามและขับถ่าย เสื้อผ้าเครื่องนอนต้องสะอาด ซักผ้าปูเตียง ผ้าขนหนู ด้วยสบู่หรือผงซักฟอก หากใช้เครื่องซักผ้าให้ซักด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าในน้ำอุณหภูมิ 60-90 องศาเซลเซียส รวมถึงหมั่นเปิดประตูหน้าต่าง ให้ลมเข้าออกเพื่อลดการสะสมเชื้อ
3. ฆ่าเชื้อเมื่อสัมผัส ผู้ป่วยควรหมั่นทำความสะอาดของที่มีการสัมผัสร่วมหลังมีการหยิบจับ เช่น ลูกบิดประตู สวิชต์ไฟ
4. หากรู้สึกอยากไอจาม ต้องออกห่างจากคนอื่นอย่างน้อย 2 เมตร และหันหน้าไปทางตรงข้ามกับคนอื่น หากไอจามขณะสวมหน้ากาก ไม่ต้องเอามือปิด และไม่ต้องถอดหน้ากาก เพราะเชื้ออาจติดมากับมือ แต่ถ้าไอจามตอนไม่สวมหน้ากาก ให้ใช้ต้นแขนด้านในปิดปากและจมูก
5. สวมหน้ากากเมื่อพบเจอผู้คน หากจำเป็นต้องเจอผู้อื่นให้สวมหน้ากากไว้ตลอด ทิ้งหน้ากากหรือซักทำความสะอาด หลังใช้ครบ 8 ชั่วโมง หรือเมื่อพบว่าหน้ากากเปียกชื้น มีรอยสกปรก
นอกจากนี้อย่าลืมเตรียมยาสำหรับดูแลตัวเองให้พร้อม ได้แก่ ยารักษาโรคประจำตัว, ยาลดไข้, ยาแก้ไอละลายเสมหะ NAC เช่น Flemex-AC OD, ยาฟ้าทะลายโจร, สเปรย์พ่นช่องปากผสม Propolis Extract สูง 2% เช่น Flemomile
