
ในช่วงหน้าฝนหรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง เราควรหันมาใส่ใจสุขภาพของตนเองให้มากขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคไข้หวัด เพราะหากป่วยเป็นไข้หวัดและไม่มีการดูแลสุขภาพที่ดี อาจส่งผลให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบและโรคปอดบวมในที่สุด
อย่างที่ทราบกันดีว่าการกินอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ ว่าแล้วมาดูกันดีกว่าว่า อาหารชนิดใดบ้างที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันต้านหวัด
1. สมุนไพรฤทธิ์ร้อน มีสรรพคุณเผ็ดร้อน ช่วยบรรเทาอาการหวัดและเสริมภูมิต้านทานให้ร่างกายแข็งแรงในช่วงหน้าฝนที่อากาศเปลี่ยนแปลง ทั้งยังหาซื้อได้ง่าย เช่น
-กระเทียม เชื่อกันว่ากระเทียมมีคุณสมบัติต้านเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรีย ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
-กระชาย มีสรรพคุณช่วยรักษาอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ไซนัสอักเสบ แก้หวัด คัดจมูก แก้อาการวิงเวียนศีรษะ แก้ไอ
-ขิง มีสรรพคุณแก้ไอและขับเสมหะ นอกจากนี้ จากการศึกษายังพบว่าขิงมีสารหลายชนิดที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
-ตะไคร้ มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกัน แก้อักเสบ ต้านไวรัสไข้หวัด ช่วยแก้อาการน้ำมูกไหลจากหวัด รวมถึงแก้คัดจมูก
2. ผักวิตามินซีสูง โดยผักเหล่านี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซี เสริมภูมิต้านทานในช่วงหน้าฝน เช่น
-พริกหวาน ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด แก้หวัด แก้ไอ แก้ไข้ ช่วยขับเสมหะ ช่วยลดน้ำมูก ช่วยบำรุงร่างกาย ขับเหงื่อ
-กะหล่ำดอก มีวิตามินซีสูง การกินเป็นประจำสามารถช่วยป้องกันและรักษาหวัด ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกาย
-กะเพรา ใบกะเพรามีฤทธิ์ขับเหงื่อ ขับพิษไข้ และใช้ขับเสมหะได้ รวมถึงช่วยลดอาการไม่สบายท้อง เบื่ออาหารได้
-มะนาว สามารถบรรเทาอาการจากหวัดได้ โดยเฉพาะอาการเจ็บคอ ช่วยให้หายใจโล่ง ลดอาการไอ ลดเสมหะ
3. ผลไม้วิตามินซีสูง อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย และต้านโรคหวัดได้ เช่น
-ฝรั่ง ช่วยป้องกันหวัด ช่วยลดอาการไอ ลดเสมหะ ช่วยฆ่าเชื้อ ช่วยลดอาการปวดศีรษะ น้ำมูกไหลได้
-สับปะรด ช่วยป้องกันหวัด ลดเสมหะในลำคอ แก้เสมหะเหนียว ขับเสมหะได้ ทั้งยังมีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย
-แตงโม มีวิตามินซีสูง ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายสูงขึ้น ช่วยป้องกันหวัด และบรรเทาอาการหวัดให้ดีขึ้นได้
-เสาวรส อุดมด้วยวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันไข้หวัดได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ควรกินอาหารที่ปรุงสุกร้อน กินหลังปรุงเสร็จใหม่ ๆ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย และป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อจุลชีพก่อเกิดโรคในระบบทางเดินอาหาร รวมถึงดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำอุ่น อย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร
ที่สำคัญ อย่าลืม ออกกำลังกายเป็นประจำ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 6 – 8 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานและมีสุขภาพแข็งแรงในระยะยาว