จากบทความเรื่อง “มะเร็งปอด” โรคร้ายที่สิงห์อมควันพรั่นพรึง บอกว่า “มะเร็งปอด” เป็นโรคที่พบได้มากในประเทศไทย และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้นๆของทั้งเพศชายและเพศหญิง (พบมากเป็นอันดับสองในเพศชาย รองจากมะเร็งตับ) อย่างไรก็ดี มะเร็งปอดสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบตั้งแต่ในระยะต้น
แถมข้อมูลจาก Bangkokhospital.com บอกว่า ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน (ปี 2018) มีข้อมูลทางสถิติ “มะเร็งปอด” เป็นหนึ่งในมะเร็งที่คนไทยเป็นมากที่สุดอันดับ 2 และยังเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตสูงที่สุดของมะเร็งทุกชนิดอีกด้วย แบบนี้แล้วจึงนับว่าไม่ใช่โรคร้ายที่ไกลตัวเลยนะครับ ว่าแต่ อาการของโรคมะเร็งปอดมีอะไรบ้าง เรามาดูกัน!
อาการของโรคมะเร็งปอดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็กและมะเร็งปอดขนาดเล็กนั้นเหมือนกัน อาการเริ่มแรก อาจหมายรวมถึงอาการต่างๆ เหล่านี้
- ไอรุนแรง
- ไอเสมหะหรือไอเป็นเลือด
- อาการเจ็บหน้าอกที่แย่ลงเมื่อหายใจเข้าลึกๆ หรือว่าหัวเราะ หรือไอ
- เสียงแหบ
- หายใจถี่
- หายใจเสียงดังกว่าเดิม
- อ่อนแอและความเหนื่อยล้า
- ความอยากอาหารลดลงและน้ำหนักลดลงเอง
อาจติดเชื้อทางเดินหายใจซ้ำๆ เช่น ปอดบวมหรือหลอดลมอักเสบ เมื่อมะเร็งแพร่กระจายอาการเพิ่มเติม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเนื้องอกใหม่ ตัวอย่างเช่น:
- ต่อมน้ำเหลือง: ก้อนโดยเฉพาะในคอหรือกระดูกไหปลาร้า
- กระดูก: อาการปวดกระดูกโดยเฉพาะที่หลังซี่โครงหรือสะโพก
- สมองหรือกระดูกสันหลัง: ปวดศีรษะเวียนศีรษะหรือมึนงง
- ตับ: ผิวและดวงตาเหลื่อง (ดีซ่าน)
เนื้องอกที่ด้านบนของปอดสามารถส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทใบหน้านำไปสู่การหลบตาของเปลือกตาข้างหนึ่งรูม่านตาเล็กหรือขาดเหงื่อที่ด้านหนึ่งของใบหน้า ร่วมกันอาการเหล่านี้เรียกว่ากลุ่มอาการฮอร์เนอร์ (Horner syndrome) นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ปวดไหล่
เนื้องอกสามารถกดบนหลอดเลือดดำขนาดใหญ่ที่ลำเลียงเลือดระหว่างศีรษะแขนและหัวใจ ซึ่งอาจทำให้เกิดการบวมของใบหน้า, คอ, หน้าอกบนและแขน
นอกจากนี้ มะเร็งปอดบางครั้งสร้างสารที่คล้ายกับฮอร์โมนทำให้เกิดอาการหลากหลายที่เรียกว่า Paraneoplastic syndrome ซึ่งรวมถึง:
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- อาเจียน
- การกักเก็บของเหลว
- ความดันโลหิตสูง
- น้ำตาลในเลือดสูง
- ความสับสน
- ชัก
- อาการโคม่า
ที่สุดแล้ว เพื่อนๆ อย่าวินิจฉัยโรคด้วยตัวเองนะครับ หากพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายให้รีบหาคุณหมอจะดีที่สุด แม้เป็นโรคเพียงเล็กน้อย แต่หากส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันก็ควรหาหมอครับ