“โรคหัวใจขาดเลือด” เป็นอย่างไร ป้องกันได้ไหม

0

เป็นหนึ่งในโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก เนื่องจากวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ที่สะดวกสบายขึ้น ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายกันน้อยลง ไปจนถึงพฤติกรรมอย่างการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา กินอาหารรสหวาน มัน เค็ม นำไปสู่การเกิดโรคในที่สุด

โรคหัวใจขาดเลือด (Myocardial Infarction) หรือโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือโรคหลอดเลือดโคโรนารีคือภาวะที่หัวใจได้รับเลือดไปเลี้ยงไม่พอ อาจเกิดได้จากสาเหตุหลายอย่าง แต่ที่พบบ่อยที่สุดเกิดจากหลอดเลือดหัวใจตีบ หลอดเลือดหัวใจตีบคือ ภาวะที่หลอดเลือดนำเลือดไปเลี้ยงหัวใจตีบตันขึ้น เช่น จากภาวะหลอดเลือดแข็ง ภาวะหลอดเลือดแข็งมักพบในคนอายุมาก เนื่องจากมีไขมันและหินปูนไปจับ

myocardial-infarction

ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด

  1. กรรมพันธุ์ เช่น โรคไขมันในเลือดสูงมาแต่กำเนิด โรคเบาหวาน เป็นต้น
  2. เพศและอายุ มักเป็นในเพศชายและคนอายุมากจะเป็นมาก
  3. โรคบางอย่าง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคเกาต์
  4. ความอ้วนและภาวะที่มีไขมันบางชนิดในเลือดสูง
  5. การสูบบุหรี่และการดื่มกาแฟเกินควร
  6. ภาวะทางจิตใจ ผู้ที่มีจิตใจตึงเครียด กังวลใจมาก และไม่รู้จักผ่อนคลายจะเป็นโรคนี้ได้บ่อยกว่า

 

ในรายที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดชั่วขณะจะมีอาการปวดเค้นคล้ายมีอะไรกดทับ หรือจุกแน่นที่ตรงกลางหน้าอก หรือยอดอก ซึ่งมักจะเจ็บร้าวมาที่ไหล่ซ้าย ด้านในของแขนซ้าย บางคนอาจร้าวมาที่คอขากรรไกร หลัง หรือแขนขวาบางคนอาจรู้สึกจุกแน่นที่ใต้ลิ้นปี่ คล้ายอาการอาหารไม่ย่อย หรือท้องอืดเฟ้อ ผู้ป่วยมักมีอาการเวลาออกแรงมากๆ มีอารมณ์โกรธ ตื่นเต้น ตกใจ เสียใจ หรือ จิตใจเคร่งเครียด ขณะร่วมเพศ หลังกินข้าวอิ่มจัด หรือเวลาถูกอากาศเย็นๆ ผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจางอย่างรุนแรง เป็นไข้ หรือหัวใจเต้นเร็ว ก็อาจกระตุ้นให้เกิดอาการของโรคนี้ได้ส่วนอาการเจ็บหน้าอก มักจะเป็นอยู่นาน 2-3 นาที แล้วหายไปเมื่อได้พัก หรือหยุดกระทำสิ่งที่เป็นสาเหตุชักนำ หรือหลังจากได้อมยาขยายหลอดเลือดนอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจมีอาการใจสั่น เหนื่อยหอบ เหงื่อออก เวียนศรีษะ คลื่นไส้ร่วมด้วย

การป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด ทำได้โดย ลดน้ำหนัก

กินอาหารที่มีไขมันโดยเฉพาะไขมันจำพวกโคเลสเตอรอลให้น้อยลง และใช้น้ำมันพืชแทน, อย่าสูบบุหรี่และดื่มกาแฟเกินควร, ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ, พยายามให้จิตใจมีโอกาสพักผ่อนบ้าง อย่าเคร่งเครียดกับการงานจนเกินไป, รักษาโรคต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัย เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคเกาต์โรคไขมันในเลือดสูง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *