“ภาวะหัวใจล้มเหลว” เกิดได้ แม้อายุยังน้อย-ร่างกายแข็งแรง

0

เมื่อกล่าวถึง “ภาวะหัวใจล้มเหลว” เชื่อว่าหลายคนมองว่าเป็นโรคของผู้สูงอายุ เนื่องจากสาเหตุหลัก ๆ ของภาวะนี้ที่พบมากคือ โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งมักเกิดในผู้สูงอายุ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ที่อยู่ในวัยรุ่นวัยเจริญพันธุ์สามารถมีภาวะหัวใจล้มเหลวได้ หรือแม้กระทั่งนักกีฬาก็สามารถพบเจอภาวะนี้ได้เช่นกัน

 

“ภาวะหัวใจล้มเหลว” เป็นภาวะความผิดปกติของการทำงานของหัวใจ ที่ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื้อ และอวัยวะต่าง ๆ ของร่ายกายได้อย่างเพียงพอ รวมถึงไม่สามารถรับเลือดกลับเข้าสู่หัวใจได้ตามปกติ ในปัจจุบันพบว่า ภาวะหัวใจล้มเหลวไม่ได้เกิดเฉพาะในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่คนที่อายุยังน้อย ร่างกายแข็งแรง ก็สามารถเกิดภาวะนี้ได้ เนื่องจากมีพฤติกรรมเสี่ยง อาทิ อ้วน สูบบุหรี่เป็นประจำ รับประทานอาหารรสเค็มจัด ขาดการออกกำลังกาย และพักผ่อนไม่เพียงพอ

 

อาการของผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว ได้แก่ หอบเหนื่อย ในขณะที่ออกแรงหรือหายใจไม่สะดวกขณะที่นอนราบ รู้สึกอ่อนเพลียทำให้ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันและการออกกำลังกายลดลง มีอาการบวมน้ำ บวมกดบุ๋มที่เท้าและขา และน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากไตทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดภาวะคั่งน้ำและเกลือ

 

64

 

ภาวะหัวใจล้มเหลวเป็นกลุ่มอาการ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบและกล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวอ่อนแรงจากการขาดเลือด กล้ามหัวใจอักเสบ โรคลิ้นหัวใจตีบหรือลิ้นหัวใจรั่ว ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง และการใช้สารเสพติด เป็นต้น เป้าหมายสำคัญในการรักษาภาวะหัวใจล้มเหลว เพื่อป้องกันและชะลอการเสื่อมของการทำงานหัวใจ ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและลดอัตราการเสียชีวิต

 

การดูแลสุขภาพในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวสามารถทำได้ ดังนี้

  1. รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบถ้วน
  2. ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม ของหมักดองเพื่อจำกัดปริมาณโซเดียม
  3. ควบคุมปริมาณน้ำดื่มตามแผนการรักษา
  4. สังเกตอาการบวมน้ำ
  5. ชั่งน้ำหนักก่อนทานอาหารเช้าทุกวัน หรือภายหลังเข้าห้องน้ำขับถ่ายแล้วในช่วงเช้า
  6. หลีกเลี่ยงความเครียด
  7. พักผ่อนให้เพียงพอ
  8. งดการสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติด
  9. ออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ
  10. สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ หากเดินขึ้นบันได 8-10 ขั้นแล้วไม่มีอาการหอบเหนื่อย
  11. ควรได้รับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปีในกรณีที่ไม่มีข้อห้าม

 

ที่สำคัญผู้ป่วยควรมาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเนื่องจากต้องมีการปรับยาให้เป็นไปตามแผนการรักษา รวมถึงดูแลตัวเองและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *