ได้ยินก็ผวา..“โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา” โรคอันตรายขั้นสุด!

0

“โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา” เป็นโรคที่มีความอันตรายสูงสุด…

เพราะมีอาการแทรกซ้อนสูง ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ติดเชื้อและป่วยด้วยโรคอีโบลามักเสียชีวิต หรือหากรักษาได้ทันท่วงทีก็ต้องใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายอยู่นาน โรคอีโบลามีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัสอีโบลาสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสกับเชื้อโรคที่อยู่ในสารคัดหลั่งของผู้ป่วย เป็นโรคระดับร้ายแรงที่เราไม่ควรมองข้าม!!

“โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา” (Ebola virus disease, EVD) เดิมรู้จักกันในชื่อ โรคไข้เลือดออกอีโบลา (Ebola haemorrhagic fever) เป็นโรคร้ายแรง ที่บ่อยครั้งทำให้เสียชีวิตผู้ป่วยต้องการการดูแลรักษาอย่างเข้มงวดเพราะยังไม่มีวัคซีนหรือวิธีการรักษาแบบจำเพาะที่ได้รับการรับรองให้ใช้ในคนหรือสัตว์

โดยเชื้อไวรัสอีโบลาสามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสเลือด หรือสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ได้แก่ เลือด น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย ของใช้ของผู้ป่วย หรือสัตว์ที่ป่วย รวมทั้งการนำสัตว์ที่ป่วยมาทำเป็นอาหาร โดยผ่านทางเยื่อบุในปากและทางเดินอาหาร, เยื่อบุตา และรอยแยกหรือแผลบนผิวหนัง

evd

EVD ก่อโรคแบบเฉียบพลันและรุนแรง ผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาจะมีอาการแสดงคล้ายไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้อย่างปุบปับ, การรู้สึกไม่สบายหรือร่างกายอ่อนแออย่างมาก, เจ็บปวดกล้ามเนื้อ, ปวดหัว และเจ็บคอหอย ตามมาด้วยการอาเจียน, ท้องเสีย, เกิดผื่น, ไตและตับล้มเหลว,ปวดท้อง, เบื่ออาหาร

ในบางรายอาจพบผื่น ตาแดง ไอ ปวดหน้าอก หายใจลำบาก กลืนลำบาก และในบางกรณีอาจพบการตกเลือดทั้งภายในและภายนอกร่างกายโดยอาการจะปรากฏในช่วง 2-21 วันหลังจากได้รับเชื้อโดยปกติจะพบอาการในช่วง 8-10วัน ที่น่ากลัวก็คือปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้ป้องกันหรือยาที่ใช้รักษาโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาการรักษาจึงทำได้เพียงการบรรเทาอาการ และรักษาตามอาการ

สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางเข้าไปในพื้นที่ที่มีการระบาด ควรปฏิบัติตนให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับเลือด หรือสารคัดหลั่ง เช่น เลือด หรือสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วยที่อาจปนเปื้อนกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์โดยเฉพาะสัตว์ป่าที่อาจนำมาเป็นอาหาร ถ้ารู้สึกไม่สบาย มีอาการไข้ ปวดหัว เจ็บคอ ท้องเสีย อาเจียน ปวดท้อง ผื่นแดง หรือตาแดง ให้รีบไปพบแพทย์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *