“โรคคอตีบ” ยิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งเสี่ยงป่วย

0

โรคคอตีบ (Diphtheria) เป็นโรคเกิดจากทางเดินหายใจติดเชื้อแบคทีเรียชนิด Chorynebacteriumdiphtheriae ที่ชอบอาศัยในลำคอมนุษย์ ทำให้เกิดอาการเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ เชื้อนี้จะทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงของทางเดินหายใจส่วนต้นจนอุดตัน ผู้ติดเชื้ออาจมีอาการรุนแรง จนทำให้เสียชีวิตได้โรคนี้ติดต่อได้ง่ายจากการสัมผัสน้ำลาย เช่น ไอ จาม รดกัน หรือพูดคุยกันในระยะใกล้ชิด

โรคคอตีบเป็นโรคที่พบได้บ่อยในประเทศในเขตร้อนที่ยังไม่พัฒนา หรือ กำลังพัฒนารวมทั้งประเทศไทย เพราะการขาดแคลนวัคซีน หรือเด็กไม่ได้รับวัคซีนเพราะคลอดเองที่บ้าน จากสถานการณ์โรคคอตีบของประเทศไทย ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2552-2555 โดยเฉพาะผู้ใหญ่วัย  20-50 ปี พบว่า สาเหตุเกิดจากภูมิคุ้มกันคอตีบจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้เสี่ยงป่วยเป็นโรคคอตีบได้สูง

Diphtheria

อาการของโรคมักเกิดหลังได้รับเชื้อประมาณ 2-5 วัน ซึ่งเป็นระยะฟักตัวของโรค ผู้ป่วยมักจะมีไข้ รู้สึกหนาวสั่น และมีอาการเจ็บคอ บริเวณคออาจบวม ทำให้กลืนอาหารและหายใจลำบาก

นอกจากนี้ผู้ป่วยมักมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต จะพบว่ามีแผ่นเยื่อสีขาวปนเทา ติดอยู่บริเวณต่อมทอนซิลและลิ้นไก่ ซึ่งเกิดจากเชื้อคอตีบปล่อยสารพิษออกมา แล้วทำลายบริเวณเนื้อเยื่อรอบๆ ให้ตายลง  ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรง สารพิษอาจแพร่เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้มีผลเสียต่อระบบประสาทและกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้ ซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดหัวใจวายและอันตรายถึงชีวิตได้

โรคคอตีบจัดเป็นโรครุนแรง เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ ทั้งนี้ความรุนแรงของโรคขึ้นกับการได้รับยาต้านสารพิษและยาปฏิชีวนะอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 วันหลังมีอาการ ซึ่งช่วยลดอัตราเสียชีวิตลงเหลือประมาณ 1% แต่ถ้ามาพบแพทย์ล่าช้า หรือเมื่อผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 5 ปี หรืออายุสูงตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป หรือเกิดผลข้างเคียงแล้ว อัตราเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 20%

การป้องกันโรคคอตีบที่มีประสิทธิภาพที่สุด คือ….

การฉีดวัคซีน ซึ่งเริ่มฉีดเมื่ออายุ 2 เดือน โดยอยู่ในรูปแบบของวัคซีนรวม โรคคอตีบ โรคบาดทะยัก และโรคไอกรนนอกจากนี้ควรรักษาสุขอนามัยพื้นฐาน เพื่อให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกาย รวมถึงรับประทานอาหารที่สะอาดและมีประโยชน์ครบหมวดหมู่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *