“ฮอร์โมนไทรอยด์” เป็นฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยควบคุมกระบวนการเผาผลาญ และการใช้พลังงานต่างๆ ภายในร่างกาย ทั้งนี้ ถ้าร่างกายมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์สูงขึ้น จะทำให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญมากขึ้น เสมือนร่างกายทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา หรือที่เรียกว่า “ไทรอยด์เป็นพิษ”
นพ.ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ “โรคไทรอยด์เป็นพิษ” ว่า…
โรคนี้มักพบในเพศหญิง เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือดสูงกว่าปกติ เกิดจากต่อมไทรอยด์ทำงานมากขึ้น หรือเกิดจากร่างกายสร้างสารแอนติบอดี ไปกระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้สร้างฮอร์โมนมากขึ้น
นอกจากนี้ “โรคไทรอยด์เป็นพิษ” ยังอาจเกิดจากต่อมไทรอยด์อักเสบ หรือเกิดจากการได้รับฮอร์โมนไทรอยด์จากภายนอกเข้าสู่ร่างกายในขนาดที่มากเกินไป ซึ่งกรณีหลังนี้มักเกิดกับผู้ป่วยที่ได้รับยาฮอร์โมนไทรอยด์เพื่อรักษาภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ หรือใช้เพื่อการลดน้ำหนักตัวแบบไม่ถูกวิธี
9 สัญญาณเตือน “ไทรอยด์เป็นพิษ”
- อาการใจสั่น ชีพจรเต้นเร็ว
- น้ำหนักตัวลดลง
- มือสั่น
- หงุดหงิดง่าย
- ตาโปน ผมร่วง
- ขี้ร้อน เหงื่อออกมาก
- ถ่ายอุจจาระบ่อย บางครั้งอาจเกิดภาวะประจำเดือนผิดปกติ
- บางรายอาจสังเกตเห็นต่อมไทรอยด์ที่อยู่บริเวณลำคอด้านหน้ามีขนาดโตขึ้น
- ขาสองข้างอ่อนแรง จนถึงขั้นยกขาหรือยืนไม่ได้ ซึ่งพบได้ไม่บ่อย แต่อาจเป็นอาการแรกสุดที่เกิดขึ้นได้
หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง จะทำให้เกิดอาการกำเริบรุนแรง ส่งผลให้การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายแปรปรวนอย่างมาก จนเกิดอาการทางระบบประสาทสับสน เพ้อ เห็นภาพหลอน จำใครไม่ได้ รวมทั้งอาการหัวใจเต้นไม่สม่ำเสมอ หัวใจหยุดเต้นชั่วขณะ และอาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้
อย่างไรก็ตาม โรคไทรอยด์เป็นพิษ สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ดังนั้น เมื่อมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาอย่างถูกต้องนะคะ