“จอประสาทตาลอก” สายตาสั้นเสี่ยงมาก แถมตาบอดได้ถ้าไม่รักษา!!

0

“จอประสาทตาลอก”

หรือ “จอประสาทตาหลุดลอก” (Retinal Detachment) คือ ภาวะที่เกิดการแยกหรือลอกตัวของจอประสาทตาด้านใน (Neurosensory retina) ออกจากจอตาชั้นนอก (Retinal pigment epithelium)

เมื่อเนื้อเยื่อเหล่านี้แยกออกจากจอประสาทตา จะทำให้จอประสาทตาไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ และหากปล่อยไว้โดยไม่มีการรักษาก็จะส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นในที่สุด

จอประสาทตาลอก

“จอประสาทตา” เป็นชั้นในสุดของลูกตา ประกอบด้วยเซลล์หลายชนิดเรียงตัวกันเป็นชั้นๆ มีหน้าที่รับแสงที่ผ่านเข้ามาจากภายนอก โดยผ่านเลนส์ตาที่ทำหน้าที่รวมแสงจากนั้นจอประสาทตาจะเปลี่ยนสัญญาณแสงให้กลายเป็นกระแสประสาทแล้วส่งไปตามเส้นประสาทตาเข้าสู่สมองเพื่อแปลผลเป็นภาพต่างๆซึ่งในภาวะสายตาปกติ การหักเหของแสงจะลงมาตกกระทบที่จอประสาทตาพอดี

“จอประสาทตาลอก” มีรูปแบบและสาเหตุการเกิดได้หลายประการ ได้แก่…

  • จอประสาทตาลอกชนิดที่เกิดจากรูหรือรอยฉีกขาดที่จอประสาทตา ทำให้มีน้ำไหลเข้าเกิดการแยกของจอประสาทตา สาเหตุมักเกิดจากการกระทบกระแทกอย่างรุนแรงที่ตาจอประสาทตาเสื่อมในผู้ป่วยสายตาสั้น หรือเกิดรูขาดขึ้นเองโดยไม่มีสาเหตุ
  • จอประสาทตาลอกชนิดที่เกิดจากการดึงรั้ง เกิดจากการดึงรั้งของพังผืดที่จอประสาทตาหรือในน้ำวุ้นตา ทำให้จอประสาทตาหลุดลอกมักพบในผู้ป่วยเบาหวานขึ้นจอรับภาพระยะท้าย ผู้ป่วยที่มีการอักเสบของน้ำวุ้นลูกตาหรือจอประสาทตาอย่างรุนแรง หรือผู้ป่วยที่เคยได้รับอุบัติเหตุทำให้ลูกตาแตกหรือทะลุมาก่อน
  • จอประสาทตาลอกชนิดไม่มีรูขาดที่จอตา เกิดจากการอักเสบหรืออุบัติเหตุ ทำให้มีน้ำรั่วซึมขังอยู่ใต้จอประสาทตา พบได้ในผู้ป่วยที่มีโรคคอรอยด์อักเสบ หรือพบในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงมากๆ เป็นต้น

เช็คลิสต์ กลุ่มคนที่มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้ นอกจากจะพบบ่อยในผู้ที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป แล้วก็จะมีกลุ่มอื่นๆ ตามนี้ค่ะ

  1. สายตาสั้นมาก
  2. เคยมีจอประสาทตาลอกมาก่อน
  3. มีประวัติครอบครัวที่จอประสาทตาลอก
  4. ผ่าตัดต้อกระจก
  5. เคยได้รับอุบัติเหตุทางตาหรือเป็นโรคตาโดยอาการเริ่มต้นของผู้ป่วยจอประสาทตาลอก ได้แก่ การมองเห็นจุดดำลอยไปมาและเป็นมากขึ้น
  6. มองเห็นแสงวาบคล้ายฟ้าแลบ
  7. ภาพบางส่วนหายไป
  8. มีสิ่งบดบังในการมองเห็น
  9. การมองเห็นเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว
  10. เวลามองมีลักษณะคล้ายมีม่านมาบังตา ม่านนี้จะเริ่มแผ่ตัวมากขึ้น จนในที่สุดขยายตัวกว้างออกไปจนมองอะไรก็แทบจะไม่เห็นเป็นต้น

ดังนั้นผู้ที่มีอาการดังกล่าวจึงควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาก่อนจะสายเกินแก้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *