เมื่อประเทศไทยเข้าสู่หน้าหนาวส่งผลให้อากาศเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิเริ่มลดลงในหลายพื้นที่ ความชื้นในอากาศน้อยลงและอากาศแห้งเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดปัญหาผิวหนังตามมาได้ โดยเฉพาะปัญหาผิวแห้ง แตก หรืออาจถึงขั้นลอกเป็นขุย และนี่คือ 3 ปัญหาผิวหน้าหนาว พร้อมข้อแนะนำเพื่อผิวสวยปังพร้อมสู้ลมหนาว
3 ปัญหาผิวยอดนิยมที่มักเกิดช่วงฤดูหนาว
1. ผื่นผิวหนังอักเสบจากผิวแห้ง ลักษณะผื่นจะเป็นขุย ผื่นแดง มักเจอในผู้สูงอายุ เนื่องจากอายุมากสภาพผิวหนังจะเสื่อมสภาพลง การสร้างน้ำมันในชั้นผิวลดลง ทำให้มีอาการผิวแห้งมากกว่าคนวัยอื่น
2. ผิวหนังอักเสบจากการระคายเคือง ผิวขาดความชุ่มชื้น เกิดจากสารเคมีในชีวิตประจำวัน เช่น การล้างมือด้วยสบู่หรือเจล ทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้ เกิดผื่นแดง ผื่นลอก บริเวณที่สัมผัสสารเคมี
3. โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก โดยมักจะมีผื่นเห่อกำเริบเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง มีผื่นแห้งลอกตามข้อพับ คันมาก บางครั้งอาจมีน้ำเหลืองไหลได้ หรืออาจมีกลุ่มไวรัสบางชนิดที่มักแพร่กระจายช่วงหน้าหนาว เช่น โรคอีสุกอีใส ซึ่งอาจมีไข้ มีผื่นตุ่มใสตามตัวได้เช่นกัน
ข้อแนะนำเพื่อผิวสวยปังพร้อมสู้ลมหนาว
1. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เนื่องจากในหน้าหนาวที่อากาศแห้ง การดื่มน้ำจะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ส่งผลให้ผิวดูสดใส อิ่มน้ำ ทั้งยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ลดโอกาสการเกิดสิว
2. หลีกเลี่ยงการอาบน้ำและล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เนื่องจากน้ำอุ่นจะทำลายชั้นไขมันธรรมชาติบนผิว ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น ผลที่ตามมาคือผิวแห้ง แตก ดังนั้น ควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติ หรือน้ำเย็นเล็กน้อยในการอาบน้ำและล้างหน้า ทั้งนี้ ไม่ควรอาบน้ำนานเกิน 10 นาที เพราะการอาบนานๆ จะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ ที่สำคัญควรใช้สบู่ที่อ่อนโยนต่อผิวหนัง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสบู่เหลวจะมีสูตรอ่อนโยนเมากกว่าสบู่ก้อน ไม่ฟอกสบู่นานเกินไป และหลีกเลี่ยงการขัดถูผิวแรงๆ
3. ทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าทันทีหลังล้างหน้า เพราะจะช่วยล็อกความชุ่มชื้นไว้ในผิว ตรงกันข้ามหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ ไม่รีบทา ผิวหน้าจะเริ่มแห้งและสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ทาไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง เน้นที่มีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นเพื่อปกป้องผิวจากลมหนาว
4. ทาครีมบำรุงผิวกายหลังอาบน้ำ ภายใน 3-5 นาที เพราะเมื่อผิวโดนน้ำจะยังมีความชุ่มชื้นอยู่ หลังเช็ดตัวหมาดๆ จึงควรทาครีมบำรุงผิวผิวกายโดยเร็ว โดยในฤดูหนาวควรเลือกครีมบำรุงที่เป็นเนื้อครีม เพราะจะให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่าเนื้อโลชั่น
5. ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เพราะรังสี UV จากแสงแดดสามารถทำลายเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิว ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่ายขึ้น ผลที่ตามมาคือ ผิวแห้งกร้าน ไม่อยากผิวพัง อย่าลืมทาครีมกันแดดทุกวัน
6. ในระหว่างวันอย่าลืมทาลิปบาล์มและแฮนด์ครีมบ่อยๆ เนื่องจากริมฝีปากและมือเป็นอวัยวะต้องเผชิญกับอากาศหนาวตลอดเวลา ซึ่งอากาศที่แห้งและเย็นจะทำให้ริมฝีปากแห้งและแตกง่ายขึ้น รวมถึงจะทำให้มือลอกและแตกได้ง่ายเช่นกัน
7. หลีกเลี่ยงการสครับหน้า เนื่องจากในหน้าหนาวอากาศแห้งส่งผลให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย การสครับหน้าจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น ทั้งยังอาจทำลายชั้นไขมันธรรมชาติที่ปกป้องผิวไปด้วย ทำให้ผิวยิ่งแห้งและระคายผิวง่ายขึ้น
8. เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่ทำให้ระคายเคือง เนื่องจากอากาศในฤดูหนาวจะแห้งและเย็น จึงควรเลือกเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้านุ่มสบาย ไม่บาดผิว เช่น ผ้าคอตตอน ส่วนการใช้ผ้าขนสัตว์หรือใยสังเคราะห์อาจจะทำให้คันหรือระคายเคืองผิวได้ หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไปเพราะอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและเสียดสีได้ เพิ่มโอกาสที่ผิวจะแตกแห้งกว่าเดิม
ทั้งนี้ หากมีปัญหาผิวหนังไม่แนะนำให้ซื้อยาเอง ควรรีบไปพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ ลดความเสี่ยงต่อการแพ้ยาจนทำให้อาการรุนแรงและลุกลาม