เมื่อลองอ่านหลายๆ บทความที่เกี่ยวกับการลดน้ำหนักแล้ว จะเห็นว่าผู้เชี่ยวชาญหลายๆ คนแนะนำให้เราเลือกกินโปรตีนเพื่อช่วยลดน้ำหนักและเป็นการช่วยสร้างกล้ามเนื้อ แถมการโหลดโปรตีนในแต่ละมื้อจะช่วยให้เราอิ่มนานขึ้นนั่นเอง

แต่ว่าการกินโปรตีนมากขนาดนั้น จะไม่ส่งผลอะไรเลยหรือ?

ในขณะที่ FDA ได้ออกมาแนะนำว่าการกินโปรตีนราวๆ 50 กรัม แต่ถ้าต้องการสร้างกล้ามเนื้อตัวเลขก็ต้องสูงกว่านี้ 0.5-0.8 กรัมต่อน้ำหนักตัว นับเป็นปอนด์ แต่หากเรากินโปรตีนมากเกินไป อะไรจะเกิดขึ้น มาลองดูกัน

กินโปรตีนมากไป อาจทำให้อ้วนได้

แน่นอนว่าหลายคนลดน้ำหนักด้วยการเริ่มจากการกินโปรตีนสูง ซึ่งมันก็ช่วยได้จริงๆ แต่หากมากเกินไปมันจะกลายเป็นพลังงานสะสมที่ไม่ถูกใช้จริง Adam Perlman ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการจาก Duke University บอกว่า

“ในทางกลับกันโปรตีนส่วนเกินอาจถูกเก็บไว้ในร่างกายเป็นไขมัน ในขณะที่ส่วนเกินของกรดอะมิโนจะถูกขับออกมา ความคิดที่อยู่เบื้องหลังนี้คือคุณไม่สามารถจัดเก็บกรดอะมิโนหรือโปรตีนเสริมได้เรื่อยๆ และถ้าคุณกินแคลอรี่มากเกินไปและคุณไม่ได้เผาผลาญออกด้วยกิจกรรม น้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้น”

กินโปรตีนมากไป อาจทำให้ไตไม่ดี

สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ไตทำงานปกติ การกินโปรตีนมากเกินไปก็อาจไม่เป็นปัญหาแต่สำหรับผู้ที่มีโรคอยู่แล้วอาจเป็นปัญหาได้ เมื่อร่างกายของเราเผาผลาญโปรตีนจะทำให้เกิดแอมโมเนียซึ่งกลายเป็นสารประกอบที่เรียกว่ายูเรีย ยูเรียถูกนำส่งไปยังไตผ่านทางเลือดที่ถูกกำจัดออกจากปัสสาวะนั่นเอง

กินโปรตีนมากไป อาจส่งผลต่อตับ

Koskinen ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชอธิบายว่า ในขณะที่ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีส่วนใหญ่สามารถเผาผลาญโปรตีนได้แม้ในปริมาณที่สูงกว่าปริมาณที่แนะนำในแต่ละวัน แต่อาจเป็นอันตรายต่อคนที่มีตับไม่ดี

โรค Non-alcoholic Fatty Liver Disease (NAFLD) หรือภาวะไขมันพอกตับ สอดคล้องโดนตรงกับโรคอ้วน ซึ่งนำไปสู่โรคตับแข็งได้แม้ว่าไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ก็ตาม ซึ่งหากตับไม่ดี การกินโปรตีนมากเกินไปอาจทำให้เกิดการสะสมของแอมโมเนีย “แอมโมเนียเป็นพิษและจะสร้างขึ้นหากร่างกายของคุณไม่สามารถจัดการกับโปรตีนหรือกำจัดยูเรียได้” Koskinen กล่าว

แน่นอนว่าการเดินทางสายกลางนั้นดีที่สุดนะคะ 🙂