แสงจากดวงอาทิตย์ ประกอบด้วย รังสียูวีเอ และยูวีบี หลายคนเข้าใจว่าแสงแดดจะทำให้ผิวหมองคล้ำ แต่จริงๆ แล้วยังทำให้เกิดริ้วรอย กระ และฝ้าด้วย นอกจากนี้คนส่วนใหญ่มักละเลยการทาครีมกันแดด มักรอให้เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นเป็นต้นไปจึงเริ่มใช้ ทั้งที่จริงแล้วเด็กวัย 6 เดือนขึ้นไปก็ควรทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว
ผศ.พญ.ปิยกานต์ ลิมธัญญกูล แพทย์ผิวหนัง รพ.จุฬาภรณ์ กล่าวว่า ที่น่าห่วง คือ เด็กๆ มันเล่นกลางแจ้ง โดยไม่มีการป้องกัน ทำให้เกิดอาการผิวไหม้ แดง ลอกได้ และเมื่อโตขึ้นจะเกิดการสะสม เพราะผิวโดนทำลายเรื้อรัง ทำให้เกิด กระ ฝ้า ผิวเหี่ยวย่น และดูแก่ก่อนวัยได้ ดังนั้น ควรทาครีมกันแดดให้แก่เด็กด้วย
พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถทาครีมกันแดดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยควรเลือกครีมกันแดดแบบฟิซิคัล ซันสกรีน ซึ่งจะสะท้อนแสงแดดออกไป แต่ต้องเลือกแบบไม่มีสารเคมี และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง เพื่อปกป้องผิวของเด็ก ทั้งนี้ หากเด็กเกิดอาการผิวไหม้ควรพบแพทย์ ไม่ควรซื้อผลิตภัณฑ์หรือยามารักษาเอง
ในส่วนของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 นั้น สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ โดยเฉพาะผิวที่มีรอยแยก เป็นผื่น อย่างสะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ฝุ่น PM 2.5 แต่สารที่เป็นองค์ประกอบของฝุ่นก็ยังส่งผลกระทบต่อผิวหนัง เช่น กระตุ้นผิวให้เกิดการระคายเคืองและภูมิแพ้ กระตุ้นเม็ดสีทำให้เกิดผิวคล้ำขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ฝุ่นขนาดเล็กเราคงป้องกันไม่ได้ จึงต้องเลี่ยงสัมผัสฝุ่น หรืออาจทาครีมกันแดด ซึ่งความเหนียวของครีมกันแดดจะช่วยดักจับฝุ่นละอองเอาไว้ไม่ให้ซึมผ่านผิวหนัง
ข้อแนะนำในการเลือกครีมกันแดด
โดย นพ.รัศม์ฐวัฒน์ ดีสมโชค แพทย์ผิวหนัง รพ.จุฬาภรณ์
- เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น หากเป็นคนผิวมันควรเลือกที่เป็นเนื้อเจล หรือเนื้อฟลูอิท ส่วนคนผิวแห้งก็เลือกชนิดที่เป็นครีม
- ประสิทธิภาพของค่า SPF และ PA โดยค่า SPF จะช่วยป้องกันรังสียูวีบี ที่ทำให้เกิดการไหม้ของผิวหนัง ซึ่งคนไทยหรือคนเอเชียจะเกิดอาการไหม้น้อยกว่า เพราะเม็ดสีผิว โดยเลือกค่า SPF 50 ก็เพียงพอ เพราะพบว่า ค่า SPF สูงๆ เช่น 100 หรือ 200 แต่ประสิทธิภาพการกันยูวีบีก็ใกล้เคียงกัน ส่วนค่า PA จะป้องกันรังสียูวีเอ ซึ่งทำให้ผิวหมองคล้ำ ควรเลือกค่า PA ที่มีเครื่องหมายบวก 3 ตัวขึ้นไป เช่น PA+++
- ปริมาณการใช้ครีมกันแดด ต้องใช้ปริมาณที่ถูกต้อง โดยผิวหน้าใช้ครีมประมาณ 2 ข้อนิ้ว หากใช้ไม่ถึงค่า SPF จะลดลง ประสิทธิภาพจะไม่เพียงพอในการป้องกัน
นอกจากนี้ ควรใส่ใจเรื่องอาหารของเบบี๋ ซึ่งอาหารที่ดีต่อสุขภาพผิว เช่น อาหารที่มีวิตามินเอ ช่วยลดอาการไหม้ของผิวหนัง, วิตามินซี ช่วยสร้างคอลลาเจนให้ผิว และวิตามินอี ช่วยเพิ่มความชุ่นชื้นให้ผิว