สาวๆ หลายคนมักบ่นปวดเท้ากันเป็นแถวโดยเฉพาะวัยทำงาน ยิ่งมีอาชีพต้องยืนหรือเดินมากๆ ยิ่งไปกันใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักโทษรองเท้าที่ใส่ไม่ได้ใจ ทำให้ไม่สบายเท้า บางคนโทษว่าเป็นที่อาชีพต้องยืนหรือเดินนานๆ แต่รู้ไหมว่าความจริงสาเหตุที่ปวดเท้าส่วนหนึ่งเพราะตัวเรานั่นเองที่กำลังทำร้ายสุขภาพเท้า ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมานกับโรคปวดเท้าที่เป็นอยู่ ลองมาดูหน่อยไหมว่ามีอะไรบ้าง
ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้อ้วนฉุ
น้ำหนักเกินจากงานวิจัยพบว่าการที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นกว่าเดิมจะส่งผลต่อสุขภาพเท้าไม่น้อย เนื่องจากเท้าทั้งสองข้างต้องแบกรับภาระมากกว่าเดิม อีกทั้งน้ำหนักที่กดลงบนเท้าทั้งสองข้างก็มากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ปวดเท้าง่าย และหากปล่อยทิ้งไว้นานๆก็จะนำไปสู่โรคเอ็นร้อยหวายอักเสบหรือโรคข้อเสื่อมได้ ดังนั้นทางที่ดีอย่าปล่อยให้น้ำหนักขึ้นเกินขนาดโดยเด็ดขาด
เดินเท้าเปล่าบนพื้นแข็ง
ธรรมชาติของเท้าถูกออกแบบมาให้เดินบนพื้นที่เรียบและอ่อนนุ่มอย่างเป็น ธรรมชาติ อย่างพื้นดิน โดยขณะที่ย่ำแต่ละก้าวลงไปพื้นจะยืดหยุ่นหรือยวบลงเป็นรอยเท้าซึ่งซัพพอร์ตกับการลง น้ำหนักของเท้าอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าเป็นพื้นกระเบื้อง ซีเมนต์ หรือแม้แต่พื้นในบ้านที่แบนและกระด้างไม่ยืดหยุ่น
แม้เดินเท้าเปล่าเพียง 5,000-10,000 ก้าวต่อวัน ก็มากพอที่จะทำให้คุเกิดอาการปวดเท้าได้แล้ว เนื่องจากความแข็งของพื้นทำให้ น้ำหนักถ่ายเทลงไปอย่างผิดลักษณะ จึงเกิดเป็นอาการปวดส้นเท้า ฝ่าเท้า หรือแม้กระทั่งปวดเข่าตามมา
ไม่ใส่รองเท้าส้นแบน
หรือรองเท้าแตะนิ่มๆเนื่องจากเมื่อใส่ไปนานๆ ความสบายจะทำให้ปวดเมื่อยจนอาจถึงขั้นอักเสบขึ้นมาแทน เพราะรองเท้าที่มีพื้นนุ่มมีแนวโน้มที่จะ ย่างเดินโดยมีลักษณะเท้าบิดเข้าด้านในเพิ่มมากขึ้น เป็นการเดินที่ทำให้นิ้วโป้งและบริเวณที่ไล่ลงมารับน้ำหนัก มากกว่าส่วนอื่นๆ
เมื่อเดินแบบนี้นานๆ จึงเกิดอาการ บาดเจ็บปวดส้นเท้า เอ็นส้นเท้าอักเสบ เอ็นร้อยหวายอักเสบ ปวดแข้ง ปวดเข่า ลามไปจนถึงปวดเอวและหลังช่วงล่างได้ ดังนั้นจึงควรเลือกรองเท้าส้นแบนหรือรองเท้าแตะไว้ใส่เดิน เพื่อความสบาย
ลองปรับเปลี่ยนดูเพื่อสุขภาพเท้าที่ดีขึ้น…