3 โรคติดเชื้อในเด็กที่พบบ่อยในประเทศไทย

0

“โรคติดเชื้อ” ทำให้คนเสียชีวิตเป็นอันดับ 2 รองจากโรคมะเร็ง ซึ่งจากสถิติขององค์การยูนิเซฟ พบว่า เฉพาะปี 2558 มีเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบทั่วโลก จำนวนมากถึง 9 แสนราย เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ ซึ่งโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในเด็ก ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ อุจจาระร่วง มือเท้าปาก คางทูม อีสุกอีใส หัด และไข้เลือดออก

การเจ็บป่วยในวัยนี้ (อายุต่ำกว่า 5 ขวบ) อาจส่งผลต่อพัฒนาการ และสุขภาพโดยรวมของเด็ก และการรักษาที่ถูกต้องไม่เพียงช่วยลดอัตราการตายของเด็กที่ติดเชื้อ ยังสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้แก่ครอบครัว สังคม และภาครัฐด้วย ข้อมูลจากสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย พบว่า โรคติดเชื้อในเด็กที่พบบ่อยในประเทศไทย 3 อันดับแรก ได้แก่…

three-infectious-diseases-in-children-are-common-in-thailand

1.“โรคปอดบวม”หรือ “โรคปอดอักเสบ” (Pneumonia)

ยังเป็นโรคเบอร์หนึ่งที่พบบ่อยในหมู่เด็กน้อยบ้านเรา เป็นเพราะคนเราต้องหายใจตลอดเวลา เมื่อเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ โอกาสที่จะหายใจใส่กัน และแพร่โรคก็มีมาก

โรคนี้เกิดจากสาเหตุหลัก 2 กลุ่ม คือ ปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อและปอดอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่โดยทั่วไปในกลุ่มเด็กเล็กนั้นจะพบว่ามีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสหรือจากเชื้อแบคทีเรีย หรือทั้งเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียร่วมกัน

2.“เชื้อไวรัสโรตา”(Rotavirus)

เป็นไวรัสกลุ่มอาร์เอ็นเอในตระกูล Reoviridaeซึ่งมี 7 สายพันธุ์ (A, B, C, D, E, F, G) เด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบเกือบทุกคน จะติดเชื้อไวรัสนี้อย่างน้อยสักครั้งหนึ่ง สาเหตุการติดต่อของโรคนี้ เกิดจากการกินสิ่งปนเปื้อนอุจจาระที่มีเชื้อนี้ เช่น เด็กมือเปื้อนแล้วอมหรือดูดนิ้ว หรือเชื้อติดกับของเล่น หรือเครื่องใช้ จึงเป็นโรคป้องกันค่อนข้างยาก

ดังนั้นจึงมักมีการระบาดของไวรัสโรตาในโรงเรียนเด็กเล็ก หรือสถานเลี้ยงเด็กฉะนั้นการรักษาความสะอาดจึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับโรคนี้

3.“โรคหัด”(Measles)

เป็นโรคไข้ออกผื่นที่พบบ่อยในเด็กเล็กเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่ารูบีโอราไวรัส (rubeola virus) ที่น่ากลัวก็คือ โรคนี้ติดต่อกันได้ง่ายมาก โดยการไอ จาม หรือพูดกันในระยะใกล้ชิด เชื้อไวรัสจะกระจายอยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และเข้าสู่ร่างกายโดยทางการหายใจ บางครั้งเชื้ออยู่ในอากาศ เมื่อหายใจเอาละอองที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสเข้าไปก็ทำให้เป็นโรคได้

โดยโรคหัดสามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโรคเพียงครั้งเดียวในช่วงที่เด็กมีอายุ 9-12 เดือน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *