ปัจจุบันหญิงไทยมีแนวโน้มเป็นมะเร็งเต้านมสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสาวโสดหรือแต่งงานมีลูกหลังอายุ 35 ปี พ่วงด้วยพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงของโรค เช่น กินอาหารที่มีไขมันสูง ไม่ออกกำลังกาย ในโอกาสที่วันที่ 7 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันมะเร็งเต้านมสากล เรามาเรียนรู้วิธีตรวจเต้านมด้วยตัวเองแบบง่ายๆ กันค่ะ
“มะเร็งเต้านม” ถือเป็นภัยเงียบใกล้ตัวเนื่องจากในระยะแรกมะเร็งเต้านมจะไม่แสดงอาการ
ไม่เจ็บ ไม่ปวด จะปรากฏอาการผิดปกติให้เห็นเมื่ออยู่ในระยะที่ก้อนมะเร็งมีการอักเสบและลุกลามไปทั่วแล้ว ฉะนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือการค้นหาก้อนมะเร็งให้เร็วที่สุด
สำหรับสาวอายุ 20 ปีขึ้นไป ตรวจเต้านมด้วยตนเอง เดือนละ 1 ครั้ง หลังมีประจำเดือนประมาณ 7-10 วันหรือตรวจในช่วงที่เต้านมนิ่มลงไม่คัดตึงแล้ว
วิธีการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ใน 2 ขั้นตอน
1.การดู
ยืนตรง ปล่อยแขนสองข้างอยู่ข้างลำตัวตามสบาย สังเกตลักษณะของเต้านมว่ามีการเปลี่ยนแปลงของหัวนมหรือไม่ ผิวหนังมีรอยบุ๋ม มีก้อนนูน ผิวหนังบวม มีแผลหรือมีเส้นเลือดสีดำใต้ผิวหนังมากเพิ่มขึ้นที่ผิดปกติหรือไม่ จากนั้นให้ยกมือขึ้นทั้ง 2 ข้าง เพื่อสังเกตความผิดปกติของรอยบุ๋มของผิวหนังบริเวณเต้านมที่เกิดจากการดึงรั้ง จากนั้นเอามือท้าวสะเอวเพื่อให้กล้ามเนื้อหน้าอกตึงตัว แล้วโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อให้สังเกตรอยดึงรั้งของผิวหนังได้ง่ายขึ้น
2.การคลำ
การตรวจเต้านมควรทำทั้งในท่านั่งและท่านอน สำหรับท่านั่งให้ปล่อยแขนลงในข้าที่ตรวจ ส่วนท่านอนให้นอนยกแขนหนุนศีรษะจะช่วยให้คลำง่ายขึ้น โดยใช้ด้านฝ่ามือของนิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง บริเวณค่อนไปทางปลายนิ้ว คลำในลักษณะคลึงวนเป็นก้นหอยเล็กๆ บริเวณเต้านมให้ทั่วทั้งเต้านม คลำด้วยความแรง 3 ระดับ คือ ระดับตื้นลงไปจากผิวหนังเล็กน้อย ระดับที่ลึกลงไป และระดับที่ลึกถึงผนังหน้าอก ในส่วนหัวนมให้สังเกตความผิดปกติว่ามีของเหลวออกจากหัวนมในขณะที่กดบริเวณปานนมหรือไม่
สำหรับอาการผิดปกติที่ควรไปพบแพทย์ ได้แก่ มีก้อนหนาๆ ในเต้านมหรือใต้แขน, บริเวณหัวนมบุ๋ม มีน้ำเหลือง หรือมีแผล, เต้านมมีผื่น แดง ร้อน ผื่นคล้ายผิวส้ม, มีอาการปวดบริเวณเต้านม
ฉะนั้น หากตรวจพบก้อนมะเร็งได้เร็วจะมีโอกาสที่รักษาหายและรอดชีวิตสูง รู้อย่างนี้แล้วอย่านิ่งนอนใจ ผู้หญิงอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ควรตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือนนะคะ