การดูแลภาวะโภชนาการในหญิงตั้งครรภ์เป็นสิ่งจำเป็น เพราะผลของภาวะโภชนาการที่ไม่ดีนี้ ส่งผลกระทบระยะยาวทั้งต่อคุณแม่และลูกน้อยที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตด้วย หนึ่งในปัญหาเกี่ยวกับภาวะโภชนาการในหญิงท้องที่ต้องเร่งป้องกันและแก้ไขก็คือ ปัญหาคุณแม่ตั้งครรภ์น้ำหนักเกิน!
ทริคการกินเพื่อป้องกันและแก้ไขเมื่อแม่ท้องน้ำหนักเกิน สรุปความจาก คู่มือการให้คำแนะนำด้านโภชนาการและการออกกำลังกายสำหรับคลินิกฝากครรภ์ยุคใหม่ โดย สสส. มีดังนี้
ควบคุมปริมาณอาหาร
ควบคุมปริมาณอาหารให้ได้รับพลังงานและสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของมารดาและการเจริญเติบโตของทารก โดยไม่ควรบริโภคอาหารมากเกินไปในแต่ละมื้อ
อย่าอดอาหารมื้อหลัก
หรือลดปริมาณอาหารมากเกินไป เนื่องจากทารกในครรภ์กำลังเจริญเติบโต การลดปริมาณอาหารมากเกินไปจะทำให้การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ช้าลง
ลดปริมาณ
หากบริโภคมากกว่าที่แนะนำให้ลดปริมาณอาหรที่ให้พลังงาน หรือลดปริมาณให้น้อยลงกว่าที่แนะนำเล็กน้อย ได้แก่ อาหารประเภทข้าว-แป้ง เช่น ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน ขนมปัง เผือก มัน เป็นต้น และอาหารไขมัน เช่น น้ำมัน กะทิ ควรหลีกเลี่ยงการปรุงอาหารด้วยวิธีการทอด ผัด แกงกะทิหรือขนมที่ใส่กะทิให้เปลี่ยนวิธีการปรุงอาหารโดยการต้ม นึ่ง ปิ้ง ยำ แทน
คาร์โบไฮเดรต
อาหารกลุ่มข้าว-แป้ง ควรเปลี่ยนเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ได้แก่ ธัญพืช หรือข้าวไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต ข้าวโพด
กินผัก ผลไม้
กินผัก ผลไม้รสไม่หวานจัดให้เพิ่มขึ้นและหลากหลาย เพื่อให้ได้ใยอาหารในการลดการดูดซึมน้ำตาล ไขมัน และคอเลสเตอรอลในร่างกาย
แหล่งแคลเซียม
กินอาหารที่เป็นแหล่งแคลเซียมเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะนม แต่ควรเปลี่ยนจากนมจืด (มีพลังงาน 130 กิโลแคลอรี มีไขมัน 8 กรัม) เป็นนมพร่องมันเนย (มีพลังงาน 92 กิโลแคลอรี มีไขมัน 3.2 กรัม) หรือนมขาดมันเนย (มีพลังงาน 72 กิโลแคลอรี มีไขมัน 0.6 กรัม)
เนื้อสัตว์
หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดมัน เช่น หมูสามชั้น หมูติดมัน คอหมู หนังไก่ หนังเป็ด
ขนม
งดกินขนม-เครื่องดื่มที่มีรสหวานจัด เช่น ลูกอม ช็อคโกแลต เยลลี น้ำหวาน น้ำอัดลม งดกินจุบจิบ เช่น ขนมกรุบกรอบ เพราะให้พลังงานสูง โซเดียมสูง แต่คุณค่าทางโภชนาการต่ำ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาน้ำหนักเกิน การดูแลด้านโภชนาการจึงควรเริ่มตั้งแต่ขณะตั้งครรภ์ เพื่อกำหนดสุขภาพในอนาคตของลูกน้อยให้ไปในทิศทางที่ดี และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ค่ะ