อย่างที่ทราบกันดีว่า กาแฟมีสารที่คาเฟอีน (Caffeine) ซึ่งมีผลกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และการเต้นของหัวใจเร็วและแรงขึ้น จะรู้สึกตาแข็ง ไม่ง่วงและแม้จะทำให้กระชุ่มกระชวยขึ้น
แต่ไม่แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่ม เนื่องจากคุณแม่ท้องมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย หัวใจทำงานหนักขึ้นอยู่แล้ว จากการที่ต้องสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทารกในครรภ์ การได้รับคาเฟอีนจะทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้นอีก
ถึงแม้คาเฟอีนจะไม่ทำให้เกิดความพิการในทารก แต่คาเฟอีนสามารถผ่านรกไปสู่ทารกในครรภ์ได้ และกระตุ้นระบบต่างๆ ของทารก เช่น การเต้นของหัวใจทารก การหายใจและการตื่นนอนบ่อยๆ หลังคลอด มีรายงานวิจัยพบว่า…
การดื่มกาแฟมากกว่า 5-6 แก้วต่อวัน ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ทำให้อัตราการแท้งบุตรสูงกว่าคนไม่ได้ดื่มเลย
คุณแม่ท้องบางคนที่ติดกาแฟมาตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ อาจจะรู้สึกอึดอัดที่จะต้องงดกาแฟ แล้วจะต้องทำอย่างไรดีนะ
1.คิดอยู่เสมอว่าต้องหยุดเพื่อลูกและสุขภาพที่แข็งแรงของลูกในท้อง
2.หาสิ่งทดแทน เช่น เปลี่ยนเป็นกาแฟที่สกัดเอาคาเฟอีนออก (Decaffeinate coffee) รสชาติอาจจะไม่ได้ดังใจเท่าไหร่ แต่ก็พอจะชดเชยได้นะคะ
3.การค่อยๆ ลดปริมาณลง เช่น ลดเหลือ 2 แก้วต่อวัน เป็น 1 แก้วต่อวัน และหยุดไปเลย หรือค่อยๆ เพิ่มกาแฟที่สกัดคาเฟอีนออก เข้าไปทดแทนแล้วค่อยๆ ลดกาแฟที่มีคาเฟอีนลง การค่อยๆ ลดมีข้อดี คือจะช่วยแก้ไขในเรื่องของอาการขาดคาเฟอีน เช่น ปวดศีรษะ กระวนกระวาย อ่อนเพลีย ได้ค่ะ
4.การรับประทานอาหารแต่น้อยๆ และบ่อยๆ เพื่อให้น้ำตาลในเลือดสูงและได้วิตามินพอเพียงจะช่วยทำให้ร่างกายต้องการคาเฟอีนน้อยลงค่ะ
5.ถ้ามีอาการของการขาดคาเฟอีน อาจเริ่มด้วยการออกกำลังกายเบาๆ จะช่วยลดอาการได้ค่ะ
อย่างไรก็แล้วแต่คุณแม่ไม่ควรจะฝืนตัวเองจนเครียด ถ้าทนไม่ไหวก็จิบบ้าง แต่ควรควบคุมปริมาณให้น้อยที่สุด และนึกถึงสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงของลูกไว้เป็นหลักนะคะ