หลายคนอาจสงสัยว่าการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กสองภาษานั้นทำอย่างไร จะทำให้เด็กสับสนหรือไม่ ทั้งนี้มีงานวิจัยระบุออกมาแล้วว่าไม่เป็นความจริง หากเด็กๆ เริ่มเรียนรู้ภาษาตั้งแต่แรกเกิด พวกเขามีความจุทางความจำในการเรียนรู้หลายๆ ภาษาได้มากกว่าหนึ่ง โดยปราศจากความสับสน เพราะว่าสมองของเค้ากำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา นั่นหมายความเขามีความสามารถในการแยกแยะภาษาหนึ่ง ออกจากอีกภาษาหนึ่งได้
อย่างไรก็ตาม เรามีคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ ที่ต้องการสอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษาได้ ดังนี้
เริ่มแต่แรก
นักวิทยาศาสตร์พบว่า เด็กๆ สามารถรับ 2 ภาษาได้ตั้งแต่แรกเกิดถึง 7 ปี และถ้ายิ่งเริ่มไวเขาก็จะเปิดรับภาษาต่างประเทศได้ดีเร็วขึ้นเท่านั้น ซึ่งทฤษฎีดังกล่าวพ่อแม่หลายคนให้การยอมรับและยืนยันว่าได้ผลจริง
พ่อหรือแม่พูดเพียงภาษาเดียว
นักภาษาศาสตร์ส่วนใหญ่ให้ความเห็นตรงกันว่า วิธีที่ดีที่สุดที่จะเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กสองภษาก็คือ ให้พ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งพูดหนึ่งภาษากับลูก แล้วอีกคนหนึ่งพูดอีกภาษาหนึ่งกับลูก เช่น ถ้าคุณต้องการให้ลูกพูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง คุณพ่อหรือคุณแม่ท่านใดท่านหนึ่ง พูดภาษาอังกฤษกับลูกตลอดเวลา เพียงแค่คนเดียว ไม่มีการสลับพลิกไปมา เพราะจะทำให้เด็กเกิดความสับสนได้
หนักแน่น
ความหนักแน่น คือหัวใจหลักของบทความนี้ คุณพ่อคุณแม่ท่านใดท่านหนึ่งต้องสื่อสารเพียงภาษาเดียวกับลูก และต้องไม่พลิกกลับไปมาแม้ว่าคุณจะพูดได้หรือลูกอ้อนวอนคุณก็ตามที เพราะหากคุณผสมกันหลายภาษาในบทสนทนาเดียว เด็กจะสับสนในการใช้คำศัพท์ แกรมม่า ในประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น เด็กก็จะกลายเป็นพูดผสมรวมกันหลายภาษาในประโยคเดียวหรือบทสนทนาเดียวกันไปหมด สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เรียกง่ายๆ ว่า “มั่ว” นั่นเอง
เป็นทั้งผู้ฟังและผู้พูดที่ดี
ในฐานะพ่อแม่คุณจำเป็นต้องเป็นผู้ฟังที่ดี และเป็นแบบอย่างของการแบ่งแยกภาษาได้ดีอีกด้วย โดยการใช้คำศัพท์ต่างๆ ให้หลากหลายให้มากเวลาที่คุณสนทนากับลูก หนังสือ เพลง หรือแม้แต่วิดีโอ แบบ 2 ภาษา นับเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะพัฒนาขีดความสามารถของลูกน้อย
กิจกรรมสนุกๆ
การเรียนรู้ภาษาส่วนใหญ่ได้มาจากการซึมซับ เด็กๆ เรียนรู้ผ่านการพูดคุยที่บ้านและสภาพแวดล้อมยามที่ออกไปเล่น ความสนใจและการเรียนรู้ของเด็กมักเกิดจากจิตใต้สำนึกมากกว่าการรู้ตัว เด็กจะเรียนรู้การพูดและอ่านการ์ตูนผ่านความสนุกของกิจกรรม เช่น เพลง ละคร นิทาน เกมส์ เป็นต้น แถมยังอยู่ได้นานๆ ตราบเท่าที่มันน่าสนใจอยู่
ดึงความสนใจด้วยสิ่งที่สนใจ
อะไรก็ตามที่ทำให้ลูกของคุณสนใจ โปรดปราน หรือกระตือรือร้นที่สุด อาจจะเป็นพวกสัตว์ การเต้นรำ หรือกีฬา ใส่สิ่งเหล่านี้ลงไปกับการเรียนรู้ภาษาที่สองของเค้า นั่นจะทำให้เขาใส่ใจและไม่เบื่อที่จะรับรู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เยี่ยมเยียน
อันนี้อาจจะเป็นคำแนะนำให้สำหรับครอบครัวที่มีฐานะ นั่นก็คือ หากคุณมีโอกาสควรพาลูกไปยังประเทศของเจ้าของภาษานั้นๆ หรือประเทศที่พูดภาษาที่ลูกคุณกำลังเรียนรู้อยู่ เพื่อให้เขาได้ฝึกฝนของจริงกันเลย แต่ถ้าทำไม่ได้ อาจจะเป็นเพื่อนหรือญาติสนิท ที่พูดภาษาดังกล่าวก็ได้ ก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเองและฝึกฝนกับคนอื่นนอกเหนือจากพ่อหรือแม่
หนังสือ
การอ่านหนังสือตั้งแต่แรกคลอดอย่างสม่ำเสนอให้กับทารกน้อย จนกระทั่งเติบโตเป็นเด็กเล็ก จะช่วยเสริมสร้างทักษะด้านสองภาษาได้อย่างดี แต่อย่าลืมข้อที่บอกว่า อย่าทำให้เด็กสับสน พ่อหรือแม่ให้เลือกภาษาของตัวแล้วอ่านให้ลูกฟัง เพื่อกันความสับสน
เด็กคนอื่นๆ
ให้ลองไปร่วมจอยกับเด็ก 2 ภาษาคนอื่นๆ เด็กในวัยเดียวกันจะเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดี เป็นหลักการง่ายๆ และเด็กด้วยกันก็ยังเป็นครูซึ่งกันและกันได้อีกด้วย
ลองยึดหลักการดังกล่าวข้างต้น เพื่อการพัฒนาของลูกน้อยของคุณ เพราะปัจจุบันนี้การสื่อสาร จำเป็นอย่างยิ่งในยุคแห่งการแข่งขัน แต่ข้อสำคัญที่คุณจะต้องไม่ลืมเลยคือ อย่ากดดันลูกเมื่อลูกทำไม่ได้ ให้เข้าใจเขาและรักในสิ่งที่เขาเป็นนั่นแหละคือสิ่งที่ดีที่สุด.