ช่วงนี้อากาศบ้านเราไม่ธรรมดาจริงๆ เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตก แถมบางวันมีลมหนาวในยามเช้า นอกจากทำให้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยแล้ว หากใครเป็นภูมิแพ้ อากาศที่เปลี่ยนยังกระตุ้นให้เกิดอาการต่างๆ อาทิ คันจมูก จามบ่อย มีน้ำมูก คัดจมูก แน่นจมูก ฉะนั้น หากมีลูกเป็นภูมิแพ้อากาศคุณแม่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษนะคะ
“โรคภูมิแพ้จมูกอักเสบ”
เป็นโรคที่พบได้บ่อยทุกเพศทุกวัยและทุกเชื้อชาติ และมีแนวโน้มจะพบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และพบบ่อยขึ้นในเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่มักเกิดอาการเมื่ออากาศเปลี่ยน จึงเรียกว่า “โรคแพ้อากาศ” สำหรับอาการหลักๆ ของโรค ได้แก่ คันในจมูก จามบ่อยๆ น้ำมูกใส คัดจมูก แน่นจมูก และอาการอื่นๆ เช่น เจ็บในจมูก หูอื้อ ปวดศีรษะ ไม่ได้กลิ่น มีเสมหะ อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ
ดูแลอย่างไรเมื่อเจ้าตัวซนแพ้อากาศ?
1.พยายามหลีกเลี่ยง กำจัด หรือลดปริมาณของสารก่อภูมิแพ้
ที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวลูกน้อยให้เหลือน้อยที่สุด รวมถึงพยายามควบคุมสิ่งแวดล้อมให้เหมาะกับตัวลูก เช่น อยู่ในห้องที่มีอุณหภูมิเหมาะสม ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป ที่สำคัญต้องสะอาด ปราศจากฝุ่นละออง
2.ดูแลให้ลูกสุขภาพแข็งแรง
โดยการให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบหมวดหมู่ในปริมาณที่เหมาะสม ส่งเสริมให้เจ้าตัวซนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือเล่นกีฬาเป็นประจำเพื่อช่วยให้สุขภาพแข็งแรง รวมถึงให้นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก ซึ่งจะทำให้อาการของโรคภูมิแพ้ดีขึ้น
3.หมั่นพาลูกน้อยออกไปรับแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าของวัน
เพื่อให้ร่างกายได้สร้างวิตามินดี อาจพาไปวิ่งเล่นหน้าบ้าน หรือสนามเด็กเล่นในหมู่บ้านก็ได้ นอกจากนี้ ควรใส่ใจเรื่องความสะอาดให้มาก โดยสอนให้ลูกล้างมือบ่อยๆ จนเป็นนิสัย และเมื่อกลับถึงบ้านหลังจากออกไปข้างนอก ควรทำความสะอาดร่างกายให้เรียบร้อยก่อนเข้าห้องนอน เพราะฝุ่นละอองที่ติดตัวลูกจากข้างนอกอาจทำให้เจ้าตัวเล็กเกิดอาการแพ้ได้
4.ใช้สเปรย์พ่นจมูกสำหรับเด็กอ่อน “อควา มาริส”
เพื่อช่วยกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ไวรัส แบคทีเรีย และสารแปลกปลอมอื่นๆ ช่วยให้ร่างกายขับสารคัดหลั่งที่สะสมอยู่ในจมูกออกมาได้ง่ายขึ้น ทำให้ลูกหายใจสะดวกขึ้น บรรเทาอาการคัดแน่นจมูก ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดีของจมูกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทีนี่เลยค่ะแม่ๆ Facebook/Aquamaristh
ทั้งนี้ ควรใช้ยาตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น รวมถึงปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง เพราะยาบางชนิดถ้าใช้ต่อเนื่องกันอาจเป็นอันตรายได้