ขนมหวานกับเด็กๆ เป็นของคู่กัน อาหารหรือขนมหรือเครื่องดื่มที่มีรสหวานมักเป็นเมนูโปรดที่อร่อยถูกปากเด็กๆ ส่วนใหญ่ เห็นลูกมีความสุขในการกินคนเป็นพ่อแม่ก็แฮปปี้ไปด้วยโดยลืมนึกไปว่าการปล่อยตามใจปากลูกทำให้เด็กติดนิสัยกินหวาน ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเจ้าตัวซนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ดังนั้น การปลูกฝังพฤติกรรมสุขภาพที่ดีตั้งแต่เด็ก เลี่ยงการกินอาหาร หวาน มัน เค็ม เพื่อป้องกันการป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ จึงเป็นกระบวนการสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากอาหารจำพวกน้ำตาลเมื่อกินเข้าไปจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานให้ร่างกายนำไปใช้ แต่หากได้รับมากเกินไปจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมในร่างกาย จึงเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคอ้วนตามมา
- พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรดูแลลูกหลาน ให้กินขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม น้อยลง เพื่อสร้างความเคยชินในการรับรสและไม่ติดรสหวาน
- พยายามควบคุมการกินน้ำตาลแต่ละวันให้ไม่เกิน 6 ช้อนชา
- ควรให้เด็กกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นกินผักและผลไม้ เลี่ยงขนมหวาน น้ำหวาน น้ำอัดลม และผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนุน ทุเรียน ลำไย ลองกอง เป็นต้น
- หากเด็กอยากดื่มน้ำหวานให้เลือกดื่มน้ำผลไม้สดไม่เติมน้ำตาลแทน
- เลือกกินผลไม้รสไม่หวานจัดเป็นอาหารว่างหรืออาหารกินเล่นแทนขนมหวาน
- อ่านฉลากให้ถี่ถ้วนก่อนซื้ออาหารและหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมสูง
- จำกัดการบริโภคอาหารสำเร็จรูป เช่น ธัญพืชแท่ง คุ้กกี้ ขนมหวาน ลูกกวาด แยม ผลไม้กระป๋อง
- ไม่ควรใช้อาหารหรือขนมเป็นเครื่องล่อใจหรือรางวัลกับเด็ก
นอกจากนี้ ควรพาลูกทำกิจกรรมทางกายจนเหนื่อยหอบอย่างน้อยวันละ 60 นาทีทุกวัน เพื่อให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรง มีการเจริญเติบโตเต็มศักยภาพ เป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีไม่มีโรคในอนาคต