เคยได้ยินไหมคะที่คนเฒ่าคนแก่เคยบอกว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่อย่าแช่งลูก ‘มันจะเป็นจริง’ หากมองในแง่ของหลักจิตวิทยาแล้ว เด็กมักจะฝังใจและจดจำถ้อยคำที่เขาได้ยินบ่อยๆ หรือเป็นถ้อยคำที่คนพูดมีความสำคัญและมีอิทธิพลต่ออารมณ์ความรู้สึกของเขานั่นเอง ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรจะต้องตั้งสติให้มากๆ ก่อนที่จะพูดอะไรกับลูก โดยเฉพาะเวลาโมโห!! เรามาดูกันสิคะว่าคำพูดอะไรบ้างที่ไม่ควรปล่อยให้หลุดออกจากปากเรา เพราะมันจะทำร้ายความรู้สึกลูกน้อยเป็นอย่างยิ่ง
- ทำไมโง่อย่างนี้
คำว่า โง่ เป็นคำพูดเชิงลบ หากคุณใส่คำพูดเชิงลบกับเขาบ่อยๆ ลูกก็จะฝังใจว่าตัวเองเป็นอย่างนั้น
- ใช้สมองหน่อยได้ไหม
การใช้คำพูดลักษณะนี้เป็นการเสียดสีประชดประชัน แสดงให้เห็นถึงความโกรธความต้องการให้คนฟังรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่า ลองถามตัวเองดูสิค่ะว่า เราอยากให้ลูกรู้สึกเจ็บปวดแบบนั้นหรือ
- ลูกนี่กวนประสาทจริงๆ
ลักษณะคำพูดแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นการใช้ภาษาแบบก้าวร้าว หากคุณใช้ภาษาแบบนี้กับลูกจนเคยชิน ลูกก็จะเรียนรู้ที่จะใช้ภาษาทำนองเดียวกันนี้กับคนอื่นรวมถึงตัวคุณเองด้วย
- ลูกคนอื่นเขาไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย
อย่าเปรียบเทียบลูกกับคนอื่นค่ะ ลูกจะรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอและไม่กล้าที่จะดีกว่าคนอื่น เพราะพ่อแม่บอกว่าคนอื่นดีกว่าอยู่ตลอดเวลา
- น้องยังทำได้เลย
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งการเปรียบเทียบที่นอกจากจะไม่สร้างสรรค์ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตัวลูกแล้ว ยังสร้างความขัดแย้งระหว่างพี่น้อง นำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ในครอบครัวที่เติบโตควบคู่ไปพร้อมกับตัวเด็กเลยทีเดียว
- แม่บอกแล้วใช่ไหม
เชื่อว่าคุณแม่หลายคนต้องเคยใช้คำนี้ แต่ทราบหรือไม่คะว่า คำคำนี้เป็นเหมือนคาถาที่คอยปิดกั้นความคิดสร้างสรรค์และความกล้าคิดกล้าแสดงออก กลัวการลองผิดลองถูก ไม่กล้ายอมรับความผิด ไม่กล้าพูดความจริงเพราะกลัวว่าแม่จะดุ นั่นเอง
- เดี๋ยวรอให้พ่อรู้ก่อนเถอะ
เมื่อลูกได้ยินคำพูดแบบนี้ นั่นหมายความว่า เมื่อลูกทำผิดแล้วลูกจะไม่มีใครคอยอยู่เคียงข้าง ช่วยเหลือ ปกป้อง แล้วยังซ้ำเติมให้ยิ่งกลัวพ่อ สร้างภาพให้พ่อเป็นคนที่ลูกจะต้องกลัวเกรง เป็นคนลงโทษ แทนที่จะเป็นคนที่ลูกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยและเป็นฮีโร่ในดวงใจ
ลองคิดง่ายว่าตอนเด็กๆ เราเจ็บปวดกับคำพูดแบบไหน เราไม่ชอบคำพูดแบบไหน แล้วตั้งสติทุกครั้งก่อนจะพูดคำเหล่านั้นกับลูกน้อยที่เรารักนะคะ