การมีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน หัวใจและหลอดเลือด และมะเร็ง ซึ่งผู้ป่วยไม่ได้มีเฉพาะในผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังพบในเด็กด้วย ไม่อยากให้เจ้าตัวซนป่วยด้วยโรคดังกล่าว พ่อแม่ควรดูแลให้ลูกรักได้มีการทำกิจกรรมทางกายที่หลากหลาย
ข้อมูลจากกรมอนามัย พบว่า…
ปัจจุบันเด็กไทยอายุ 1 – 14 ปี กว่า 1 ล้านคน มีน้ำหนักเกินและอ้วน จากผลการคาดการณ์ยังพบว่า จะมีเด็กไทยถึง 1 ใน 5 ที่อยู่ในภาวะอ้วน ที่จะส่งผลให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ เมื่อโตขึ้น นำไปสู่ปัญหาอื่นๆ ตามมามากมาย ดังนั้น ในช่วงปิดเทอมที่เด็กๆ ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น พ่อแม่จึงควรส่งเสริมให้เด็กมีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้น
เด็กและวัยรุ่นอายุ 6 – 18 ปี ควรมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางถึงหนักอย่างน้อยวันละ 60 นาที ได้แก่ การเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน วิ่งไล่จับ กระโดดยาง เล่นกีฬา ทำความสะอาดบ้าน ช่วยพ่อแม่ทำสวน ล้างรถ รดน้ำต้นไม้ พรวนดิน ปลูกผักสวนครัว เดินขึ้นบันไดแทนการขึ้นลิฟต์ หรือบันไดเลื่อน พาลูกออกไปทัศนศึกษา หรือเที่ยวนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์ สวนสาธารณะ สวนสัตว์ สวนสนุก เป็นต้น
การทำกิจกรรมทางกายจะช่วยสร้างเสริมความแข็งแรงของระบบไหลเวียนโลหิต ระบบหายใจ กล้ามเนื้อของกระดูก รวมถึงความยืดหยุ่นของร่างกาย เพิ่มความสูง เพิ่มความสามารถการทำงานของระบบประสาท ส่งเสริมสมาธิ ลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า เสริมบุคลิกภาพ สร้างทัศนคติที่ดีและมีพฤติกรรมกิจกรรมทางกายต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งกิจกรรมทางกายสามารถแบ่งเป็นช่วงๆ สะสมอย่างน้อยครั้งละ 10 นาที
ไม่ควรปล่อยให้ลูกใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการดูโทรทัศน์ การใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือการเล่นวิดีโอเกม ควรมีการจำกัดชั่วโมงการเล่น ให้น้อยกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน และให้เปลี่ยนอิริยาบถจากท่านั่งหรือนอนราบทุก 1 ชั่วโมง ด้วยการลุกเดินไปมาหรือยืดเหยียดร่างกายเพื่อสุขภาพที่ดีสมวัย
ทั้งนี้ พ่อแม่หรือผู้ใหญ่ในบ้านคนอื่น ควรทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น ไม่ใช่ว่าห้ามลูกแต่ตัวเองกับก้มหน้าเล่นมือถือทั้งวันนะคะ วิธีที่ดีที่สุดคือ หาเวลาไปทำกิจกรรมทางกายร่วมกันแบบทั้งครอบครัวค่ะ