5 วิธีใช้เวลากับครอบครัวอย่างมีคุณภาพ

0

พ่อแม่ในเมืองใหญ่ มักจะมีปัญหาแก้ไม่ตก นั่นคือปัญหาเรื่อง “เวลา” หลายคนบ่นว่าเวลาในแต่ละวันช่างน้อยนิดเหลือเกิน ไหนจะทำงานนอกบ้าน ทำงานในบ้านและยังต้องดูแลลูกที่กำลังโตอีก แต่แท้ที่จริงแล้วเวลาอันน้อยนิดนั้นไม่ใช่ปัญหา ถ้าเรารู้จักการบริหารเวลาที่มีให้แก่ครอบครัวอย่างมีคุณภาพ

Positive family preparing lunch together

1. การใช้เวลาร่วมกันไม่ใช่การพาไปช็อปปิ้ง

ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้องตระหนักว่าการให้เวลาที่มีคุณภาพกับลูกไม่ได้หมายถึงกิจกรรมที่จะต้องใช้เงินทั้งหมด เช่น พาลูกไปช็อปปิ้ง เพราะนั่นไม่ใช่การใช้เวลาร่วมกัน แต่ควรใช้เวลาอยู่กับลูกแบบตัวต่อตัว อย่างน้อยวันละ 30 นาที เช่น การขับรถไปส่งหรือไปรับลูกที่โรงเรียน ซึ่งเป็นเทคนิคที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนใช้ได้ผลมาแล้ว ให้ใช้เวลาที่ได้อยู่ร่วมกันนั้นซักถามปัญหาหรือความในใจของลูกเพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้มีส่วนร่วมในชีวิตส่วนหนึ่งของลูก


 

2. ไม่ควรดูทีวี หรือเล่นคอมพิวเตอร์กับลูก

เพราะกิจกรรมนี้จะทำให้แต่ละคนให้ความสนใจไปที่จอสี่เหลี่ยม แทนที่จะให้ความสนใจแก่กันและกัน ควรเล่นเกมส์ที่เล่นร่วมกันได้เช่น ต่อจิ๊กซอว์ ปริศนาเชาว์ต่าง ๆ หรือ วาดรูป หรือระบายสี ร่วมกัน


 

3. สอนการบ้านลูกอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน

การสอนการบ้านลูกจะเป็นวิธีหนึ่งในการสร้างความใกล้ชิดกับลูก อีกทั้งพ่อแม่จะได้รับรู้ปัญหาในการเรียนของลูกและจะได้หาวิธีแก้ไขร่วมกัน เช่น รู้ว่าลูกอ่อนวิชาภาษาอังกฤษ พ่อแม่อาจจะเล่นเกมทายคำศัพท์กับลูก นอกจากจะได้ใกล้ชิดลูกแล้วยังได้ช่วยลูกแก้ปัญหาในการเรียนด้วย


 

4. ให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารร่วมกัน

ช่วงเวลารับประทานอาหารเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเปิดโอกาสให้สมาชิกได้พูดคุยเกี่ยวกับชีวิตของตน พ่อแม่จึงควรให้ความสำคัญกับช่วงเวลานี้ พยายามให้ลูกๆมารับประทานอาหารพร้อมหน้ากันอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3-4 วัน


 

5. กำหนดกิจกรรมที่ทำในชีวิตประจำวันร่วมกับลูก

บางกิจกรรมอาจใช้เวลาไม่มากนัก แต่ก็สามารถทำเป็นกิจวัตรได้ เช่นการทำงานบ้านด้วยกัน หรือมอบหมายให้ลูกทำงานบ้านที่ถนัด โดยคุณพ่อคุณแม่คอยสอนหรือดูอยู่ห่างๆ นอกจากจะทำให้ได้ใช้เวลาอย่างมีคุณภาพร่วมกันแล้วยังเป็นการปลูกฝังเรื่องหน้าที่และความรับผิดชอบให้แก่ลูกด้วย


 

นอกจากนี้คุณอาจวางแผนทำกิจกรรมนอกบ้านกับลูกบ้างเป็นครั้งคราว ก็จะช่วยให้พ่อแม่มีปฏิสัมพันธ์กับลูก และช่วยเพิ่มความกระตือรือร้นของลูก ซึ่งจะนำไปสู่การสนทนาพูดคุยระหว่างพ่อแม่ลูก หรือหากิจกรรมที่เป็นงานอดิเรกซึ่งพ่อแม่อาจทำกิจกรรมที่ลูกสนใจร่วมกับลูก เช่น ขี่จักรยาน เล่นกีฬา ฯลฯ งานอดิเรกเหล่านี้จะช่วยให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุขค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *