อ๊ะๆ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดกันนะคะ ‘’ ที่พูดถึงเนี่ย หมายถึง แสงแดดและสีสันค่ะ อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นแสงสียามราตรีในสถานเริงรมณ์เชียวค่ะ
ในครอบครัวหนึ่งๆ นั้นสมาชิกที่มีโอกาสเกิดโรคซึมเศร้ามีได้ทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นตัวลูก คุณพ่อที่อาจมีปัญหาเรื่องธุรกิจการงาน คุณแม่ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือหลังคลอด หรือแม้แต่ผู้สูวอายุที่อยู่ในวัยเกษียณ การแก้ไขหรือวิธีรักษาโดยใช้สิ่งรอบตัวเรานี่แหละค่ะที่สามารถทำได้อย่างง่ายดายที่สุด
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย McGill ในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา พบว่า การที่มนุษย์เราไม่ค่อยได้มีโอกาสออกมารับแสงแดดก็อาจเป็นตัวการที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน นั่นเพราะแสงแดดช่วยให้นาฬิกาภายในร่างกายของมนุษย์ทำงานเป็นปกติ รวมถึงการหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ ดังนั้น
- การออกมารับแสงแดดจึงสามารถทำให้อารมณ์แจ่มใสกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้ อีกวิธีง่ายๆ ก็คือ อยู่ในห้องสว่างๆ โล่งๆ หรือเปิดหน้าต่างรับแสงสว่างจากภายนอกบ้าง วันละประมาณ 30 นาทีก็ช่วยได้
- แสงแดดที่ช่วยในการบำบัดการรักษาโรคซึมเศร้านั้น ควรมีค่าความสว่าง 1,500-10,000 ลักซ์ หรือแดดยามเช้าช่วงเวลาหกโมงครึ่งถึงก่อนเก้าโมง
- เมื่อร่างกายได้รับแสงแดดอ่อนๆ จะช่วยลดการสร้างฮอร์โมนเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ถ้าหากเก็บตัวอยู่แต่ในที่มืด จะทำให้ฮอร์โมนตัวนี้สูงขึ้น และอาจส่งผลให้เกิดการง่วงเหงาซึมเซาได้
นอกจากแสงแดดธรรมชาติแล้ว ในปัจจุบันนักจิตวิทยายังมีการนำพลังของสีมาปรับใช้ เพื่อบำบัดอาการเจ็บป่วยต่างๆ ของร่างกายและจิตใจให้กับผู้ป่วยมากมาย เรียกศาสตร์นี้ว่า “สีบำบัด” หรือ“Color Therapy” หลักการทำงาน ดังนี้ค่ะ
- สีแต่ละสีมีความยาวคลื่น (Wave Length) และความถี่ (Frequency) ที่แตกต่างกันเมื่อจอประสาทตาของเรารับแสงสีต่างๆ จะส่งผ่านเข้าไปสู่ต่อมไพเนียลในสมอง ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมจังหวะการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเรา เช่น การกิน การนอน การขับถ่าย”
- หลังจากนั้นต่อมไพเนียลจะมีปฏิกิริยาในการตอบสนองต่อสีแต่ละสีแตกต่างกันออกไป ซึ่งส่งผลต่อจิตใจ ฮอร์โมน และอารมณ์ในร่างกายของเรา ในขณะนั้นให้รู้สึกแตกต่างกันออกไป
- สำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าแล้ว สีเหลือง ทอง แสด ขาว สว่าง จะช่วยเยียวยาอาการท้อแท้หดหู่ หมดกำลังใจ ให้ความรู้สึกอบอุ่นใจ ร่าเริง เป็นมิตร และลดทอนความกลัวได้ค่ะ
แม่นุ่มว่าวิธีการนำ ‘แสงและสี’ มาใช้บำบัดและสร้างความผ่อนคลายให้กับสมาชิกในบ้านนี้สามารถทำได้ทุกวัน ไม่ว่าครอบครัวนั้นจะมีสมาชิกที่โรคซึมเศร้าหรือไม่ เพราะนอกจากจะช่วยสุขภาพใจแข็งแรงแล้วสุขภาพกายก็ดีไปด้วยแน่นอนค่ะ