ในครอบครัวหนึ่งๆ อาจไม่ได้ประกอบไปด้วยพ่อ แม่ และลูกเสมอไป บางครั้งเราจำเป็นที่จะต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในครอบครัวใหญ่อย่างไม่มีทางเลือก ทั้งลุง ป้า น้า อา ลูกพี่ลูกน้องฯลฯ
แน่นอนว่าการอยู่กับคนหมู่มากย่อมมีความแตกต่างทางด้านทัศนคติ แล้วถ้าหากบังเอิญว่าในครอบครัวเราดันมีคนที่มองโลกในแง่ร้ายอยู่ด้วยล่ะ เราจะอยู่กับเขาอย่างไรให้สบายใจและไม่โดนกลืนกลายเป็นคนคิดลบไปด้วย
เตรียมใจ
คุณต้องเริ่มจากการเตรียมใจและทำใจตัวเองไม่ให้หงุดหงิดหรือทุกข์ร้อนไปกับความคิดร้ายๆ ของเขา มิเช่นนั้นตัวคุณเองก็จะไม่มีความสุข เพราะคุณต้องอยู่ร่วมหลังคาเดียวกัน เจอกัน มีกิจกรรมร่วมกันอยู่บ่อยๆ
เข้าใจ –เห็นใจ
พยายามยอมรับตัวตนของเขาเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่เป็นมิตรเสียก่อน คุณต้องพยายามใช้ความเข้าใจ สาเหตุที่เขามีพฤติกรรมหรือความคิดเช่นนั้น ซึ่งอาจจะมาจากสาเหตุบางประการ เช่น การเลี้ยงดู การไม่ได้รับความรัก เป็นต้น และควรเห็นใจว่าเขาเองก็ต้องรับผลที่เกิดจากความคิดลบของเขา
ไม่สนับสนุนความคิด
แต่คุณก็ต้องระวังว่าการแสดงออกบางอย่างกับคนประเภทนี้ เพราะอาจยิ่งกลายเป็นโทษกับตัวเอง แม้ว่าคุณอาจมีธรรมชาติที่ชอบช่วยเหลือและปลอบใจคนที่กำลังมีความทุกข์ เพราะนั่นอาจกลายเป็นการยืนยันและสนับสนุนว่าความคิดเหล่านั้นถูกต้อง อย่าพยายามช่วยหาเหตุผลให้ความคิดลบของเขา ทางที่ดีบอกให้เขาคิดและตัดสินใจเองดีกว่านะ
ใจแข็ง
ปฏิเสธคำยั่วยุทั้งหลายที่จะพาให้คุณถูกความคิดลบครอบงำไปด้วย! เราจึงต้องมีสติรู้เท่าทันกับดักอันชาญฉลาดของความคิดลบให้ได้ อย่ารู้สึกเศร้าหรือจิตตกไปกับความผิดหวังของเขา
เติมพลังบวกให้ตัวเองเสมอๆ
หากิจกรรมเติมพลังบวกให้ใจของเราสดใสและกลับมาเบิกบานอยู่เสมอ ด้วยการนึกถึงข้อดีหรือความรู้สึกที่ดีในตัวเขา ลบภาพและความคิดเกี่ยวกับเขาสักพักหาเวลาพัก นึกถึงแต่เรื่องดี ๆ หรือใช้เวลากับคนที่มองโลกในแง่ดี ที่ทำให้คุณได้รับพลังทางบวกเยอะ
สุขภาพจิตที่ดีเป็นกำลังใจที่สำคัญในการดำเนินชีวิต ดังนั้นอย่าให้ใครมาทำให้คุณต้องเป็นมะเร็งทางความคิดนะคะ