สังเกต “ตา-หู-จมูก-ปาก-ลิ้น” ของเบบี๋… แบบไหนที่น่าเป็นห่วง!

0

“เด็กพัฒนาการล่าช้า”

เด็กที่มีพัฒนาการช้ากว่าลำดับขั้นพัฒนาการปกติตามช่วงอายุของเด็ก

โดยที่เด็กอาจจะมีพัฒนาการล่าช้าด้านใดด้านหนึ่ง หลายด้าน หรือทุกด้านก็ได้ ทั้งนี้ เด็กพัฒนาการช้าสามารถสังเกตได้อาการผิดปกติของอวัยวะ ว่าแล้วเรามาสังเกต “ตา-หู-จมูก-ปาก-ลิ้น” ของเบบี๋กันค่ะ

notice-the-eye-ear-nose-mouth-tongue-of-beeb-which-is-worrisome

  1. “หู”

ใบหูผิดรูป อยู่ต่ำหรือสูงเกินไป ติ่งหูยาวผิดปกติ มีรูด้านหน้าหูหรือหูไม่มีรู  อายุ 6 เดือนแล้วไม่สามารถหันตามทิศทางของเสียง และไม่ตอบสนองกับเสียงที่ได้ยินรอบข้าง เช่น ไม่สะดุ้งตกใจเมื่อมีเสียงดัง

  1. “ดวงตา”

หากลูกเป็นเด็กพัฒนาการล่าช้าตาลูกจะห่างจนผิดปกติ ตาเหล่าเข้า-ตาเหล่ออกเห็นว่าแสงสะท้อนจากรูม่านตาเป็นสีขาว แสดงว่ามีความผิดปกติอยู่ด้านหลังรูม่านตา อาจจะเป็นต้อ มีเนื้องอก จอประสาทตาลอก พัฒนาการที่ผิดปกติคือ มองตามวัตถุแล้วตาแกว่งไม่หยุดนิ่ง ไม่จับจ้องวัตถุ ไม่สบตา

  1. “จมูก”

เด็กจะมีดั้งจมูกบี้หรือเชิดมาก ทั้งนี้ ต้องดูหน้าตาโดยรวมด้วย เช่น หางตาชี้ กระหม่อมแบน ลิ้นใหญ่ ซึ่งอาจจะเป็นอาการของดาวน์ซินโดรม เด็กจะไม่ตอบสนองหรือไม่มีปฏิกิริยากับกลิ่นต่างๆ เลย เช่น ไม่นิ่วหน้าหรือจามเมื่อมีกลิ่นเหม็นฉุน ซึ่งโดยปกติแล้วทารกเริ่มได้กลิ่นตั้งแต่อายุ 3 วันแล้ว ยิ่งเป็นกลิ่นคุณแม่เด็กจะพยายามหันไปหาด้วยความคุ้นเคย

  1. “ปาก”

ปากบางเป็นปากปลา (ไม่เห็นริมฝีปากเลย) หรือปากแหว่งเพดานโหว่ เด็กจะมีอาการพูดไม่ชัด ติดอ่าง เสียงผิดปกติ ไม่เล่นเสียงและส่งเสียงอ้อแอ้ ไม่โต้ตอบตำพูดตามวัย มีพัฒนาการทางภาษาช้า เช่น สองขวบแล้วยังพูดคำที่ไม่มีความหมาย ไม่ทำตามคำสั่งและไม่พยายามพูดกับคนอื่น

  1. “ลิ้น”

สังเกตพบว่าลิ้นใหญ่ ลิ้นยืดออกมาขณะพูด การสบของฟันปกติ เด็กจะน้ำลายไหลย้อย เด็กมักอ้าปากกว้างไม่หุบ ไม่กลืนอาหาร ไม่เคี้ยวข้าวหรือเคี้ยวนาน ไอหรือสำลักอาหารบ่อยๆ


การหมั่นสังเกตเบบี๋และรีบพาไปพบแพทย์เพื่อรักษาโดยเร็ว ทำให้ทีมแพทย์สามารถช่วยเหลือเด็กได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก และนำไปสู่พัฒนาการที่ดีขึ้นตามศักยภาพค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *