“ฟองน้ำล้างจาน” ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จำเป็นสำหรับทุกครัวเรือน เพราะใช้ในการทำความสะอาดจานชามและอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ เป็นประจำ การทำความสะอาดฟองน้ำล้างจานที่ใช้แล้วและการล้างจานเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากใช้อย่างผิดวิธีอาจนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้นะคะ
หากไม่ล้างทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่กับฟองน้ำที่ผ่านการใช้งานแล้วให้หมดไป ก็จะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อจุลินทรีย์ หรือแบคทีเรียก่อโรค เช่น เชื้อซัลโมเนลลา ที่ติดมากับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เป็นต้น ซึ่งเป็นอาจสาเหตุของการเกิดโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วงได้ หากใช้ฟองน้ำล้างจานซ้ำๆ โดยไม่ล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรค เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรค
วิธีการลดหรือทำลายเชื้อแบคทีเรียในฟองน้ำล้างจาน
- ควรแยกฟองน้ำที่จะใช้ล้างภาชนะให้เหมาะกับแต่ละประเภท อาทิ จาน ชาม กระทะ แก้วน้ำ
- หลังการใช้งานทุกครั้ง ควรนำฟองน้ำล้างจานหรือแผ่นใยขัดมาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด และนำไปตากแดดจัดทิ้งไว้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง
- ใช้น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำเปล่าครึ่งลิตร แล้วนำฟองน้ำหรือแผ่นใยขัดแช่ไว้ 1 คืน และต้องเปลี่ยนน้ำส้มสายชูทุกวัน หรือใช้ผลิตภัณฑ์ล้างจานที่มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งแบคทีเรียล้างทำความสะอาดฟองน้ำ
สำหรับจาน ชาม และภาชนะต่างๆ ที่ผ่านการใช้งาน ควรล้างทำความสะอาดทันที เพื่อป้องกันแหล่งสะสมของเชื้อโรค โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- กวาดเศษอาหารทั้งหมดที่ติดจานชามทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด
- ล้างภาชนะด้วยน้ำผสมน้ำยาล้างจาน เพื่อล้างคราบไขมัน เศษอาหาร และสิ่งสกปรกที่ติดค้างอยู่ โดยใช้ฟองน้ำหรือแผ่นใยสังเคราะห์ช่วยในการทำความสะอาด
- จากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีก 2 ครั้ง เพื่อล้างน้ำยาล้างจานและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่ยังค้างอยู่ออกให้หมด
- นำจานชามที่ล้างเรียบร้อยไปคว่ำให้แห้ง หรือผึ่งตากในที่ที่มีแสงแดดส่องถึงเพื่อฆ่าเชื้อโรค และบริเวณที่คว่ำต้องไม่มีฝุ่นหรือแมลงวัน โดยคว่ำบนตะแกรง หรือ ตะกร้า หรือจุดวางภาชนะที่สูงจากพื้น 60 เซนติเมตร
ทั้งนี้ไม่ควรใช้ผ้าเช็ดเพราะอาจทำให้เกิดการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกที่ติดมากับผ้าได้ นอกจากนี้ควรหมั่นดูแลรักษาบริเวณห้องครัวให้สะอาด เพื่อสุขอนามัยที่ดีค่ะ
