ทำเอาเหล่าฟู้ดเลิฟเวอร์เกิดอาการผวาไปตามๆ กัน จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวของหญิงสาวที่สูญเสียแม่ด้วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร โดยระบุสาเหตุว่าเกิดจากการกินอาหารค้างคืนที่เอามาอุ่นจนเป็นพิษต่อตับไต
แค่กินอาหารค้างคืนชีวิตก็สุ่มเสี่ยงต่อมะเร็งแล้ว มันช่างน่ากลัวซะเหลือเกิน ว่าแต่งานนี้จะชัวร์หรือมั่วนิ่มเรามาวิเคราะห์กัน!
“ไนเตรตและไนไตรท์” เป็นวัตถุเจือปนอาหาร ที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป ได้แก่ กุนเชียง, ไส้กรอก, แหนม เพื่อให้อาหารคงสภาพอยู่ได้นาน และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่ออันตรายต่อผู้บริโภค หากร่างกายได้รับ “ไนเตรตและไนไตรท์” มากเกินไป อาจเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ตัวเขียว หายใจลำบาก หมดสติได้
การนำอาหารค้างคืนมาอุ่นกินนั้น ไม่ได้ทำให้ปริมาณไนเตรตและไนไตรท์เพิ่มขึ้น เพราะจริงๆ ไนเตรตก็มีอยู่ในผักผลไม้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว ปริมาณไนเตรตในผักไม่มีปัญหาต่อสุขภาพของผู้บริโภค เพราะผักมีปริมาณสารอื่นๆ ที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี เกลือแร่ ไฟเบอร์ ช่วยลดการเกิดพิษของไนเตรต
แม้ว่าจะไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดมะเร็งแต่การกินอาหารค้างคืนหรือมีการอุ่นซ้ำก็ไม่ใช่เรื่องดีต่อสุขภาพ เพราะการอุ่นอาหารซ้ำซาก หรือตุ๋นเป็นระยะเวลาเกิน 4 ชั่วโมง จะทำให้คุณค่าทางโภชนาการลดลงส่วนอาหารประเภทผักสด ผัดผัก ผักลวก นึ่ง ต้ม ถ้าเหลือแล้วนำไปเก็บไว้กินมื้อต่อไป คุณค่าทางโภชนาการก็จะลดลง รวมถึงรสชาติเปลี่ยนไป
หากมีการเก็บรักษาไม่ดีพอ อุณหภูมิไม่เหมาะสม จุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนจะทำให้ท้องเสียได้ นอกจากนี้ การกินอาหารประเภทกะทิค้างคืนที่มีส่วนประกอบเป็นเนื้อสัตว์ หากมีการเก็บรักษาไม่ดีพอ หรืออุ่นด้วยความร้อนไม่ทั่วถึง อาจทำให้เน่าเสียได้
