ปฐมพยาบาลผิดวิธีทำคนจมน้ำตายคาที่ถึง 50%

0

เป็นภัยใกล้ตัวที่คร่าชีวิตลูกหลานไทยจำนวนมากทีเดียวสำหรับ การจมน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กไทยอายุต่ำกว่า 15 ปี และที่น่าตกใจก็คือ หลายรายเสียชีวิตจากการปฐมพยาบาลที่ผิดวิธี เรียกว่าแทนที่จะช่วยบรรเทาอาการ กลับเป็นตัวเร่งให้เสียชีวิตเร็วขึ้น

ตั้งแต่ปี 2548 ในประเทศไทยมีเด็กตายจากการจมน้ำไปถึง 11,771 คน โดยเฉพาะภาคอีสาน ซึ่งเม.ย.เสียชีวิตมากที่สุด รองลงมาคือ มี.ค.และ พ.ค. ล่าสุด ส่วนปีนี้ตั้งแต่ ม.ค.-พ.ค. มีเด็กจมน้ำตาย 256 คน ลดลงไป 47 คนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2557 ทั้งนี้ อัตราการเสียชีวิตทั้งปีอยู่ที่ 807 คน คิดเป็น 6.7 ต่อแสนประชากรเด็ก

การปฐมพยาบาลช่วยเหลือเด็กจมน้ำอย่างผิดวิธีพบมากถึง 35% จนมีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุถึง 50% อย่างเช่นกรณีการเผยแพร่คลิปวีดิโอช่วยเหลือเด็กจมน้ำด้วยการยกพาดหัว กระแทกท้องเพื่อเอาน้ำออก เพราะเชื่อว่าต้องเอาน้ำออกจากท้องให้เร็วที่สุด ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างวิธีการที่ผิด เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้ผู้ป่วยสำลักน้ำจากกระเพาะอาหาร ทำให้ขาดโอกาสในการได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกวิธี ซึ่งนาทีทองในการช่วยชีวิตคนจมน้ำอยู่ที่ 4 นาทีแรก ไม่อย่างนั้นสมองจะขาดออกซิเจนและเสียชีวิต

การปฐมพยาบาลคนจมน้ำอย่างถูกวิธีคือ ต้องทำให้หายใจได้เองเร็วที่สุด ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำเมื่อเห็นคนจมน้ำคือโทร.แจ้งหน่วยฉุกเฉิน สายด่วน 1669 และใช้อุปกรณ์ที่สามารถลอยน้ำได้โยนลงไปเพื่อให้คนจมน้ำเกาะ เมื่อช่วยขึ้นมาจากน้ำให้จับนอนราบ หากคนจมน้ำรู้สึกตัวต้องเช็ดตัวให้แห้ง เปลี่ยนเสื้อผ้าห่มผ้าเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย

ปฐมพยาบาลผิดวิธีทำคนจมน้ำตายคาที่ถึง  2

แต่หากไม่รู้สึกตัวต้องเร่งช่วยทำให้หายใจได้เองด้วยการกดหน้าผาก เชยคางขึ้น บีบจมูก เป่าปากลมเข้าปอด โดยทำ 2 ครั้ง แล้วเปลี่ยนมาปั๊มหัวใจ โดยวางส้นมือขนานกับแนวกึ่งกลางหน้าอก ประสานมือ แขนตั้งฉากกดหน้าอกให้ยุบประมาณ 5 เซนติเมตร ความเร็ว 100 ครั้งต่อนาที ทำสลับกับการเป่าปาก 2 ครั้ง จนกว่าผู้ป่วยจะหายใจได้เองหรือหน่วยกู้ชีพจะมาถึง หากผู้ป่วยหายใจได้แล้วให้จับนอนตะแคงเพื่อให้น้ำไหลออก ใช้ผ้าห่มคลุมให้ความอบอุ่น งดให้น้ำและอาหาร และให้นำส่ง รพ.ทุกราย เพราะมีโอกาสสำลักน้ำและเกิดการติดเชื้อในภายหลังได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *