“ปฏิเสธหัวใจอย่างไร ฉันทำไม่เป็น เพียงแค่เห็นเธอเข้ามาทักทาย เหมือนได้เห็นความฝันที่กลับกลายเป็นความจริง หัวใจที่ไม่เคยมีรัก กลับอยู่ไม่เป็นจังหวะเพียงแค่เธอส่งยิ้มมา ไม่กล้าเปิดเผยใจ กลัวเธอจะรู้ว่า คนที่ยืนอยู่ตรงนี้”
แหม่… เรื่องของการ “ปฏิเสธ” นี่มันไม่ง่ายทั้งความจริงแล้วก็เรื่องมโนเลยนะครับ เคยมั้ย? หลายครั้งที่เราต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยากต่อการที่จะเอ่ยการปฏิเสธออกไป ที่สุดแล้วกลายเป็นเรื่องเครียดที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
แต่ความจริงแล้วสิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือการ “พูดความจริง” ไปว่าตอนนี้เราไม่สามารถทำให้ได้เพราะงานที่มีอยู่ล้นมือมากแล้ว แต่ถ้ามองเนื้องานแล้วเราไม่อยากทำ แม้จะไม่ได้โอเวอร์โหลดมาก อันนี้เราพูดความจริงไม่ได้แล้วควรใช้วิธีโกหกเล็ก ๆ ชนิดที่เนียนขั้นเทพ โดยอาจใช้ธุระอื่น ๆ มาช่วยเพิ่มการปฏิเสธนี้ให้มีน้ำหนัก จะได้ไม่ต้องมานั่งทำร้ายจิตใจของคนอื่น เช่น ไม่ว่างพอดีเลย พอดีต้องไปรับคุณแม่เลยทำให้ไม่ได้ “ขอโทษนะจ๊ะ” เป็นต้น
อาจจะต้องฝืนทำตัวเป็นคนเฟค ๆ บ้าง แต่การทำงานบางครั้ง เราไม่จำเป็นต้องจริงใจกับคนอื่นมากเกินไปหรอก สร้างความเห็นแก่ตัวไว้บ้าง อย่าลืมว่าเราเองก็มีงานที่ต้องเร่งทำและต้องโฟกัสอีกมากมาย ด้วยเหตุนี้เราจึงควรเรียนรู้วิธีปฏิเสธให้เป็น เพราะการที่เรารู้จักปฏิเสธนอกจากช่วยให้เรามีเวลาโฟกัสกับงานให้ออกมาดีที่สุดแล้ว ยังไม่ต้องเร่งรีบทำงานเพื่อให้เสร็จ ๆ ไป ซึ่งอาจมีความผิดพลาดตามมาได้
ทำความเข้าเรื่องของการ “ปฏิเสธ” ไปแล้วๆ มันจะพอมีทางออกหรือไม่? สำหรับคนที่ปฏิเสธไม่เก่ง เฮียมีคำแนะนำดีๆ มาฝากกัน
- รวมสุดยอดเคล็ดวิชาวิธีบอกปัดแบบต่างๆ ที่น่าจะได้ใช้กัน
- บอกไปเลยว่า เราเองก็อยากช่วย แต่งานที่มีตอนนี้มันเยอะมากเกินไปแล้ว อาจแจกแจงไปเลยว่ามีงานอะไรค้างอยู่บ้างก่อนจบด้วยประโยค ถ้ายังว่างอยู่ยินดีจะทำให้เต็มที่เลย
- อย่าเพิ่งตัดบทปฏิเสธไปก่อนเพียงแค่บอกให้เขาเข้าใจว่าอีกกี่วันจึงจะทำให้ได้ สามารถรอได้มั้ย เพื่อที่เขาจะประเมินได้ถูกว่าสมควรจะรอ หรือขอความช่วยเหลือจากคนอื่นแทน
- เอ่ยประโยคที่ว่า “ไม่รับปากนะ แต่ถ้ามีเวลาจะดูให้” ไม่ควรรับปากด้วยความเกรงใจหากคิดว่าทำให้ไม่ทัน การแบ่งรับแบ่งสู้ถือเป็นการส่งสัญญาณการปฏิเสธอีกวิธีหนึ่ง
- แนะนำคนที่คาดว่าจะช่วยเขาได้ดีกว่าเพื่อเป็ฯทางเลือกให้กับเขา
เฮียขอทิ้งท้ายนิดนึงนะครับ คนเราน่ะ ช่วยได้ก็ช่วยอันนี้จริงครับ แต่ถ้าช่วยแล้วเดือดร้อนตัวเอง เฮียแนะนำให้เลือกตัวเองมาก่อนจะดีที่สุด ไม่ใช่ว่าเห็นแก่ตัวแต่ถ้าแม้แต่ตัวเองยังทำงานตัวเองได้ไม่ดี เฮียว่า… งานของคนอื่นเราก็ไม่น่าจะทำได้ดีไปกว่าหรือเปล่า?
ลองไปคิดกันดูครับ!