เราได้ยินกันอยู่เสมอว่า “การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรทำเพื่อสุขภาพของตัวเอง” แต่ความจริงแล้ว การนอนไม่ได้นับแค่ชั่วโมงที่เราหลับอยู่บนที่นอนนะ แต่นับเฉพาะการนอนที่มีคุณภาพเท่านั้น ความหมายก็คือ ถ้าเพื่อนๆ นอนกัน 8 ชั่วโมง แต่มีการนอนเพียง 3 ชั่วโมงที่รู้สึกว่าได้พักหรือหลับสนิทจริงๆ เราก็นับชั่วโมงของการนอนเพื่อสุขภาพแค่ 3 ชั่วโมงนั้นนั่นแหละ
The National Sleep Foundation (NSF) ได้รายงานใน Sleep Health ถึงตัวชี้วัดว่าอะไรกันนะ คือสิ่งที่ทำให้เราเราได้อย่างมีคุณภาพจริงๆ
ไม่ทำกิจกรรมอื่นๆ บนเตียง
ขอบคุณโลกที่ก่อกำเนิดเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและโปรแกรมทีวีดีๆ อย่าง Netflix แต่… กิจกรรมใดๆ ก็แล้วแต่ที่เพื่อนๆ ทำร่วมกับสิ่งเหล่านี้บนเตียงนอน ไม่ถือว่าเป็นการพักผ่อนจริงๆ หรอกนะครับ NSF แนะนำว่าเราควรใช้เวลาอย่างน้อย 85% บนเตียงในการหลับจริงๆ ไม่ใชการทำกิจกรรมกับเทคโนโลยีเหล่านั้น
หัวถึงหมอนแล้วหลับมั้ย?
ผลการศึกษาประจำปีของ NSF บอกว่าคนอเมริกากว่า 1 ใน 3 ใช้เวลามากกว่า 30 นาทีหรือนานกว่านั้น (บางคนเป็นชั่วโมง) ถึงจะหลับได้จริงๆ ซึ่งทำให้เกิดเป็นโรคนอนไม่หลับหรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับการนอน ถ้าใครเป็นจะรู้ว่ามันทรมานมากนะ การนอนไม่หลับเนี่ย ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือควรลดความเครียด หาเวลาผ่อนคลายหรือออกกำลังกาย จะช่วยให้การนอนเป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น
ไม่เคยตื่นกลางดึก
ไม่มีอะไรน่าพึงพอใจไปกว่าการไม่ถูกรบกวนระหว่างการนอน หรืออีกนัยหนึ่งคือ คงโชคดีมากถ้าเราเป็นคนไม่ค่อยได้สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะหากเป็นแบบนั้น นั่นหมายความว่าการนอนของเรามีความผิดปกติและถูกรบกวนมากกว่าคนอื่น
ถ้าตื่นกลางดึก ก็สามารถหลับได้เลย
อย่างข้อที่แล้ว เฮียบอกว่าการไม่สะดุ้งตื่นขึ้นมากลางทางนั้นดีมาก แต่หากใครที่ก็ตื่นขึ้นมาเหมือนกันนะแต่สามารถหลับได้เลยภายใน 20 นาที ถือว่าการนอนก็ยังพอมีคุณภาพอยู่บ้าง แต่ถ้าเกินกว่านั้นก็เป็นสัญญาณเตือนแล้วล่ะครับว่าการนอนของเรามันคงไม่ค่อยได้คุณภาพเท่าไหร่
“ในอดีต เราเหมารวมว่าการนอน แค่ได้นอนก็ถือว่าได้ทำเพื่อสุขภาพแล้วแต่ความจริงแล้วมีเรื่องที่ถูกแบ่งแยกออกไปในปัจจุบัน และการนอนเพื่อสุขภาพมีนัยยะที่สำคัญกว่านั้น” Maurice Ohayon แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก Stanford Sleep Epidemiology Research Center ได้กล่าวไว้ครับ
