“สตรอเบอร์รี่” ช่วยลดอาการในโรคลำไส้อักเสบ (IBD)

0

โรคลำไส้อักเสบ (IBD) เป็นอีกหนึ่งโรคที่นำมาซึ่งอาการท้องร่วงและความเมื่อยล้าอย่างรุนแรง มีวิธีการรักษาไม่ว่าจะเป็นยา ไปจนถึงการผ่าตัด แต่ตอนนี้มีงานวิจัยออกมาว่า ทางเลือกโภชนาการแบบง่ายๆ ก็ช่วยลดการอักเสบของลำไส้ใหญ่และปรับปรุงสุขภาพทางเดินอาหารได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อเพื่อนๆ กินสตรอเบอร์รี่

งานวิจัยดังกล่าวถูกนำเสนอในงาน National Meeting & Exposition of the American Chemical Society (ACS) ครั้งที่ 256 นำทีมโดย Hang Xiao, Ph.D ซึ่งกล่าวถึงงานวิจัยในครั้งนี้ว่า…

“ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการบริโภคอาหารของคนจำนวนมากมักเลือกอาหารที่มีน้ำตาลสูงไขมันสูง แต่มีเส้นใยต่ำ ซึ่งนั่นอาจส่งเสริมการอักเสบของลำไส้ใหญ่และเพิ่มความเสี่ยงต่อ IBD”

  • ตามที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ของสหรัฐฯ ระบุว่าในปี 2015 มีรายงานว่ามีผู้ป่วย 3 ล้านรายในสหรัฐฯ รายงานว่าได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรค IBD รวมทั้งโรค Crohn ซึ่งสามารถติดเชื้อส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบทางเดินอาหารและลำไส้ใหญ่อักเสบซึ่งเป็นลักษณะการอักเสบของลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โดยคนที่มี IBD มีความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่มากขึ้น

และในทางตรงกันข้าม การบริโภคผักและผลไม้มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่ลดลงของ IBD, Hang Xiao และทีมจากมหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์แอมเฮิร์สต์ ได้โฟกัสการวิจัยไปที่ “สตรอเบอร์รี่” เนื่องจากเป็นหนึ่งผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางนั่นเอง

strawberry-reduces-the-symptoms-of-ibd

ในการทดลองใช้หนูจำนวน 4 กลุ่ม

  1. กลุ่มหนูสุขภาพดี และให้กินตามปกติ
  2. กลุ่มหนูที่เป็นโรค IBD และให้กินตามปกติ
  3. กลุ่มหนูสุขภาพดี เพิ่มผงสตรอเบอร์รี่ 2.5%
  4. กลุ่มหนูที่เป็นโรค IBD เพิ่มผงสตรอเบอร์รี่ 2.5%

นักวิจัยพบว่า การบริโภคสตรอเบอรี่ทั้งหมดในปริมาณที่เทียบเท่ากับ 3 ใน 4 ถ้วยสตรอเบอร์รี่ต่อวันในคนอย่างมีนัยสำคัญช่วยยับยั้งอาการ เช่น ช่วยลดน้ำหนักได้ ช่วงลดโรคอุจจาระร่วง ในหนูที่เป็น IBD การรักษาด้วยสตรอเบอร์รี่ช่วยลดการตอบสนองต่อการอักเสบในเนื้อเยื่อลำไส้ใหญ่ของหนูได้

เรียกได้ว่าผลของการวิจัยช่วยให้เราเห็นว่า “สตรอเบอร์รี่” เป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่ช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้ เมื่อกินอย่างต่อเนื่อง โดยทีมวิจัยจะแนะนำว่าการกินผลไม้ชนิดนี้ 3 ใน 4 ถ้วย

ที่มา: Strawberries could help reduce harmful inflammation in the colon
โดย American Chemical Society, Sciencedaily.com

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *