“วิกลจริต”
หรือ “โรคจิต” (Psychosis) คือ ภาวะผิดปกติทางจิตที่มีความผิดปกติของความคิด อารมณ์ พฤติกรรมอย่างมากจนไม่อยู่ในโลกของความเป็นจริง ซึ่งผู้ป่วยมักจะไม่ยอมรับว่าตนเองป่วย โดย “โรคจิต” เป็นโรคกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งในกลุ่มโรคทางจิตเวชทั้งหมดที่มีหลายโรค
อาการของผู้วิกลจริต ได้แก่…
- ความคิดหลงผิดอย่างรุนแรงเช่น ระแวงถูกสะกดรอยตาม, คิดว่ามีคนจะมาฆ่า ทั้งที่จริงๆไม่มี, คิดว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ คิดว่ามีคนจะมาฆ่า ทั้งที่จริงๆไม่มี
- ประสาทหลอน เช่น ได้ยินหูแว่วเสียงคนพูดถึงตนเอง, ได้ยินเสียงคนที่ตายไปแล้ว,เห็นภาพที่คนอื่นไม่เห็นและอาการเหล่านี้เป็นบ่อยจนรบกวนชีวิตประจำวัน
- พฤติกรรมแปลกผิดประหลาดจากปกติ เช่น วุ่นวายมาก, ทำท่าทางแปลกๆ
- พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ถ้าในช่วงแรกจะสังเกตได้ยาก ต้องเป็นคนใกล้ชิดเท่านั้นที่สังเกตเห็น แต่ช่วงหลังจะเปลี่ยนหนัก เช่น ไม่หลับไม่นอน ไม่กินอาหาร เดินทั้งคืน พูดคนเดียว
- พูดจาผิดปกติ เช่น พูดฟังไม่รู้เรื่อง, ไม่ปะติดปะต่อ, ใช้ภาษาแปลกๆ
- เฉื่อยชา อยู่เฉยๆนิ่งๆ เก็บตัว ไม่สนใจสังคม ปล่อยตัว ไม่ดูแลตนเอง ดูเหมือนคนขี้เกียจ
ในส่วนของสาเหตุนั้นมีหลายๆ ปัจจัยที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะวิกลจริต ซึ่งแบ่งคร่าวๆ ได้ดังนี้
- ปัจจัยทางกายภาพ เกิดจากความผิดปกติของสมองและร่างกายเนื่องจากได้รับพิษของสิ่งเสพติด เช่น เหล้า กัญชา ยาบ้า กาว ผงขาว ไปจนถึงยาลดความอ้วน ฯลฯ ได้รับเชื้อโรคที่เป็นอันตรายต่อสมอง เช่น มาลาเรียขึ้นสมอง เยื่องหุ้มสมองอักเสบศีรษะได้รับอันตราย เช่น ถูกตีศีรษะ รถคว่ำ ศีรษะถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงนอกจากนี้กรรมพันธุ์ก็อาจส่งผลให้เป็นโรคจิตเภทได้
- ปัจจัยทางจิตใจ ได้รับความกดดันทางด้านจิตใจและสังคม เช่น ผิดหวังเรื่องการเรียน อกหัก การสูญเสียคนที่รัก การสูญเสียตำแหน่งหน้าที่การงานหรือชื่อเสียง มีปัญหาทางการเงิน มีปัญหาในครอบครัว ตกงาน
ภาวะวิกลจริตนี้ไม่สามารถหายได้หากสงสัยว่าคนใกล้ชิดป่วยควรรีบพาไปพบแพทย์หรือจิตแพทย์ให้ได้ ทั้งนี้คนใกล้ชิดอาจมาปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อรับคำแนะนำล่วงหน้า เพราะผู้มีภาวะวิกลจริตมักไม่ยอมรับว่าตนเองป่วย อาจคลุ้มคลั่ง
หากพาไปพบแพทย์พึ่งระลึกว่ายิ่งผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยเร็ว จะยิ่งส่งผลต่อการหายของโรคในระยะยาว การปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา อาจทำให้อาการรุนแรงขึ้นและรักษายากขึ้น