“โรคลีเจียนแนร์” (Legionnaires Disease)
เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียชนิดเฉียบพลันจากสิ่งแวดล้อมที่มีชื่อว่า Legionellae เป็นเชื้อแบคทีเรียรูปแท่ง โรคนี้สามารถก่อให้เกิดอาการ 2 รูปแบบ ได้แก่
- โรคปอดอักเสบลีเจียนแนร์ (มีภาวะปอดอักเสบ อาการรุนแรง)
- โรคลีเจียนแนร์ชนิดไม่มีปอดอักเสบหรือไข้ปอนเตียก
Legionellae เป็นแบคทีเรียชนิดงอกเจริญได้ในธรรมชาติ พบได้ทั่วไปโดยเฉพาะในน้ำในดิน เนื่องจากชอบงอกเจริญในนํ้าอุ่น จึงมักพบอาศัยอยู่ในหอลดอุณหภูมิ ซึ่งทำหน้าที่ระบายความร้อนให้แก่น้ำที่ใช้ในระบบทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ ในระบบน้ำอุ่นที่ใช้ในอาคารบ้านเรือน (หัวฝักบัว, อ่างน้ำวน ฯลฯ) ในธรรมชาติ พบเชื้อนี้ได้จากนํ้าในทะเลสาบคู คลอง หนอง บึง และน้ำพุร้อน
การติดต่อ “โรคลีเจียนแนร์” จึงเกิดจากการสูดหายใจเอาเชื้อที่ปนเปื้อนอยู่ในละอองฝอยของน้ำจากแหล่งที่มีเชื้อแบคทีเรีย Legionellaeการสำลักนํ้าที่มีเชื้อเข้าไปในปอดและการติดเชื้อในกระแสเลือดโดยผ่านทางบาดแผล
ผู้ป่วย “โรคลีเจียนแนร์” จะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เริ่มด้วย ปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้อ ตามด้วยมีไข้สูง หนาวสั่น เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน อาจมีอุจจาระร่วง ไอแห้งๆ(มักไม่มีเสมหะ) ในกรณีที่เป็นไข้ปอนเตียกมักจะหายภายใน 2-5 วัน แม้จะไม่ได้รับการรักษา ส่วนโรคลีเจียนแนร์ถ้าเป็นมากอาจพบลุกลามได้ในปอดทั้งสองข้าง การป่วยค่อนข้างรุนแรงและอาจจะทำให้การหายใจล้มเหลว มีอัตราการตายสูง
การป้องกันตัวให้ห่างไกลจาก “โรคลีเจียนแนร์” ทำได้โดย…
- ทำความสะอาดระบบปรับอากาศ และระบายความร้อน 1-2 ครั้งต่อเดือน ไม่ให้มีตะไคร่เกาะ
- หอระบายความร้อน (Cooling Tower) ต้องเปิดน้ำทิ้งให้แห้งเมื่อไม่ได้ใช้ ขัดถูทำความสะอาดล้างคราบไคลและตะกอน เติม biocides ฆ่าเชื้อรา
- อย่าใช้น้ำประปาเติมเครื่องช่วยหายใจ
- ตั้งอุณหภูมิระบบน้ำร้อนให้สูงกว่าหรือเท่ากับ 50 องศาเซลเซียสเพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ