หน้าก็เป็นอัมพาตได้!! โรคร้ายที่เกิดขึ้นได้แบบไม่ให้ตั้งตัว

0

“โรคอัมพาตใบหน้า”(Bell’s palsy)

รู้จักกันในหลายชื่อ ได้แก่ โรคอัมพาตเบลล์, โรคใบหน้าเบี้ยว, โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก, โรคใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก เหตุที่เรียกชื่อโรคว่า Bell’s palsy เพราะแพทย์ชาวสกอตแลนด์ชื่อ Charles Bell (ชาร์ลส์ เบลล์) เป็นผู้รายงานเกี่ยวกับโรคนี้เป็นคนแรกในปี พ.ศ.2372

โรคอัมพาตใบหน้า”เป็นโรคทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยโรคหนึ่ง และพบได้ในทุกอายุ (เป็นโรคคนละกลุ่มกับโรคหลอดเลือดสมองหรือโรคอัมพาตที่คนทั่วๆ ไปรู้จัก) ทั้งยังไม่ทราบสาเหตุของโรคที่แน่นอน

Bell’s pals

แม้จะเป็นโรคที่ไม่รุนแรง แต่มักจะมีความผิดปรกติเกิดขึ้น โดยมีอัมพาตของกล้ามเนื้อใบหน้าซีกใดซีกหนึ่งเพียงซีกเดียว และมักมีอาการเกิดขึ้นแบบปัจจุบันทันด่วน

เป็นโรคที่สร้างความวิตกกังวลอย่างสูงกับผู้ป่วยเพราะกลัวว่าจะมีโรคอัมพาตหรือโรคหลอดเลือดสมองตามมา จนนำไปสู่ความพิการในที่สุด

โรคอัมพาตใบหน้า” นี้เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้า แม้ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของโรคนี้ แต่เชื่อว่าอาจมีสาเหตุได้จากประสาทใบหน้าติดเชื้อต่างๆ โดยเฉพาะไวรัสซึ่งเชื้อนี้มักก่ออาการเมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นผลข้างเคียงของโรคบางโรคที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน, การที่ร่างกายสร้างสารภูมิต้านทานจากการติดเชื้อไวรัสต่างๆ และภูมิต้านทานนี้ ส่งผลให้เกิดการอักเสบบวมของประสาทใบหน้า

สำหรับอาการที่เกิดอย่างเฉียบพลัน ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน อาจมีอาการแสบตาข้างเดียว เพราะไม่สามารถปิดตาได้สนิท หรือมีอาการรับประทานอาหารแล้วน้ำลายไหลออกทางมุมปากข้างใดข้างหนึ่ง ต่อมาอาการของโรคอาจจะเป็นมากขึ้นจนปากเบี้ยวและปิดตาไม่สนิท จนสามารถสังเกตมองเห็นได้ชัดเจน บางรายอาจมีอาการมากจนไม่สามารถขยับมุมปาก หลับตา หรือยักคิ้วหลิ่วตาได้เลย

“โรคอัมพาตใบหน้า” เป็นโรคไม่รุนแรง สามารถหายได้เอง แต่เมื่อมีการรักษาจะช่วยให้โรคหายเร็วขึ้น โดยทั่วไปประมาณร้อยละ85 ของผู้ป่วยจะฟื้นตัวภายใน 3 สัปดาห์ในผู้ป่วยที่ฟื้นตัวไม่ได้เต็มร้อย อาการจะค่อยๆดีขึ้น โดยอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6-12 เดือนจึงจะฟื้นตัวเต็มร้อยฉะนั้นเมื่อเมื่อมีอาการใบหน้าเบี้ยว ควรรีบพบแพทย์ภายใน 1-3 วัน เพราะการรักษาโรคจะได้ผลดีกว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *