FDA มะกันอนุมัติแล้ว! ยาใหม่ต่อสู้ ‘โรคอ้วน’
FDA หรือว่าองค์กรอาหารและยาแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เขาออกมาเปิดเผยถึงสถานะการอนุมัติตัวยาที่จะใช้ในการต่อสู่กับโรคอ้วนแล้ว!
FDA หรือว่าองค์กรอาหารและยาแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา เขาออกมาเปิดเผยถึงสถานะการอนุมัติตัวยาที่จะใช้ในการต่อสู่กับโรคอ้วนแล้ว!
วันนี้ที่มาดามเฮลทตี้จะชวนเพื่อนๆ มาเปิดประเด็นเรื่องดินกันก็เพราะว่ามีรายงานล่าสุดเผยออกมาว่า “ดินสามารถนำเอามารักษามะเร็งได้!”
ผลพวงของความเหงาและกดดันนั้นยิ่งทำให้พวกเขาไม่ยอมลุกไปไหนง่ายๆ หากได้ลองปลดปล่อยอารมณ์ไปกับสุราและความบันเทิงบนหน้าจอ ซึ่งนั่นอาจนำไปสู่ภาวะที่ดิ่งลงทางความรู้สึกอันเป็นปัจจัยของการเป็น ‘โรคซึมเศร้า’ ได้
หนึ่งในโรคที่อาจส่งผล กระทบต่อสุขภาพ คือ “คอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม” (Computer Vision Syndrome) หรือ โรคซีวีเอส คนที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มักมีอาการปวดตา แสบตา ตามัว และบ่อยครั้งที่จะปวดหัวร่วมด้วย อาการทางสายตาเหล่านี้เกิดจากการจ้องดูข้อมูลบน
ว่ากันว่า, เรื่องเล็กๆ มักส่งผลต่อเรื่องใหญ่เสมอ ร่างกายคนเรานี้มีความมหัศจรรย์ยิ่งนัก สามารถทำได้หลายอย่าง แปรสภาพได้หลายแบบ รับอะไรได้หลายสิ่ง และที่สำคัญ! เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย
“หยุดใช้นิ้ว จิ้ม…แล้วก้าวเท้า จ้ำ ออกมา!!!” คำพูดสั้นๆจากรุ่นพี่คนหนึ่ง ทำเอาผมสะดุ้งโหยง และอดคิดกับตัวเองไม่ได้ว่า เราทุกคนอยู่ในยุคของสังคมที่โลกออนไลน์และโลกแห่งความเป็นจริง…แทบจะทาบทับจนกลายเป็นใบเดียวกัน จึงทำให้หลายคนหลงคิดว่าเฟสบุ๊ค คือส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้ แต่รู้หรือไม่?
“เนื้อหนัง-ใส่เลือด พิเศษ จาน!” วาจานี้คงเป็นที่คุ้นหูคุ้นปากกันดีสำหรับนักกินข้าวมันไก่ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าข้าวมันไก่นั้นเป็นเมนูยอดฮิตที่อยู่คู่บ้านเรามาช้านาน เพราะความอร่อยเมื่อได้ลิ้มรสสัมผัสเนื้อไก่นุ่มๆ ข้าวมันหอมๆ น้ำซุปร้อนๆ และเลือดไก่กลมกล่อม จึงทำให้เมนูข้าวมันไก่นี้เอง แทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวัน
ยุคสังคมออนไลน์ที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของร่ายกายอย่างขาดไม่ได้ จึงทำให้ใครหลายคนมักมีตาแบบหมีแพนด้า ชอบกด ชอบสัมผัส ชอบถูไถอุปกรณ์สื่อสารทุก 5 นาที เวลาใช้รถไฟฟ้าจะโก่งคอโดยไม่มีสาเหตุ เอาจริงเอาจังเป็นพิเศษกับเรื่องไร้สาระ และอาหารหลักส่วนใหญ่ คือ มาม่า และขนม