เพราะความสวยไม่ใช่เรื่องที่ควรเสี่ยง การสรรหาวิธีให้เสริมความงามให้เสียเงินน้อยที่สุดโดยไม่ศึกษาถึงข้างเคียง แทนที่จะประหยัดอาจทำหน้าพังได้ เช่นเดียวกับวิธีลอกสิวเสี้ยนที่จมูกโดยการใช้กาวตราช้างทาลงบนกระดาษกาว ก่อนจะปิดลงบนจมูกแล้วลอกออกนั้น บอกได้เลยว่าอันตรายมากๆ
กาวแบบใช้กับงานบ้าน มักเป็นสารเคมีในกลุ่มไซยาโนอะคริเลต (cyanoacrylate) มีคุณสมบัติเป็นสารยึดติดที่แห้งเร็ว ทำให้วัสดุติดทนนาน โดยกาวชนิดนี้มีโครงสร้างทางเคมีที่เหมาะสำหรับใช้เฉพาะเชิงอุตลาหกรรม (Industrial grade)
การใช้กาวนี้จึงต้องระวังไม่ให้สัมผัสโดยตรงที่ผิวหนัง เพราะเกิดปฏิกิริยารวดเร็ว ทำให้มีการคายความร้อนที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังได้มากกว่ากาวที่ใช้เฉพาะทางการแพทย์ (Medical grade) ในส่วนของการสลายตัวของสารจะมีการปล่อยสารฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) และอัลคิลไซยาโนอะคริเลต (Alkyl cyanoacrylate) ซึ่งแม้จะมีปริมาณที่ไม่มาก แต่อาจเกิดพิษต่อเนื้อเยื่อและระบบทางเดินหายใจได้
นอกจากนี้หากกาวหากไปสัมผัสบริเวณผิวหนัง/อวัยวะส่วนอื่น เช่น รอบดวงตา หรือริมฝีปาก ที่ผิวหนังบอบบาง เกิดอาการระคายเคืองง่าย อาจทำให้เกิดผิวไหม้พอง เป็นแผลเป็นถาวรได้ ดังนั้น ผู้ที่ต้องการกำจัดสิวเสี้ยนจึงควรใช้วิธีอื่นๆ ที่มีความปลอดภัยมากกว่า
การใช้สารธรรมชาติในการลอกสิวเสี้ยนมีหลายวิธี
- ใช้ไข่ขาวลองสิวเสี้ยน โดยหลังจากล้างหน้าให้สะอาด ซับหน้าแห้งแล้ว ให้ใช้ทิชชู่จุ่มไข่ขาวแล้วนำมาแปะที่จมูก รอจนทิชชู่แห่งสนิท ลอกทิชชู่อย่างระมัดระวัง จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำเย็น
- ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนที่มีวางจำหน่ายทั่วไป ถึงแม้จะมีราคาแพงกว่าการใช้กาวตราช้างแต่มีความปลอดภัย ไม่เป็นพิษ และเกิดการระคายเคืองกับผิวหนังน้อยกว่า
- ใช้น้ำตาลและน้ำผึ้งผสมให้เข้ากัน แล้วนำมาสครับบริเวณจมูกเบาๆ รอจนกว่าสครับจะแห้ง แล้วจึงเช็ดออก
ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดสิวเสี้ยนไม่ว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้หน้ามันหรือปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นให้รูขุมขนกว้าง เช่น บำรุงผิวหน้าจนเกินความจำเป็น บีบสิวเสี้ยน ขัดหน้าบ่อยๆ