5 พฤติกรรมที่อาจทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว

0

การใช้ชีวิตรวมถึงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันตั้งแต่การเผชิญแสงแดดไปจนถึงการแสดงออกของสีหน้าท่าทาง หรือแม้แต่นํ้ายาทำความสาะอาดเสื้อผ้า รวมไปถึงมลภาวะ ควันต่างๆ อาจทำให้เราได้ผลกระทบความเสียหายต่อผิวหนังได้โดยที่ไม่รู้ตัว ซึ่งจะแสงออกตั้งแต่รูปแบบของรอยแดงไปจนถึงริ้วรอยที่เกิดขึ้น ในบางกรณีอาจมีผลก่อให้เกิดโรคผิวหนังต่างๆ ดังนั้นเราจึงลิสต์ที่สุดแห่ง 5 พฤติกรรมที่ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพผิว ที่เมื่อคุณรู้แล้วสามารถเลือกที่จะหลีกเลี่ยงได้

 

ผิว

 

  1. การออกแดด

แสงแดดจากดวงอาทิตย์เป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดของการสร้างความเสียหายบนผิวหนัง ซึ่งรังสีอัลตร้าไวโอเลตในดวงอาทิตย์ เมื่อสัมผัสจะไปเป็นตัวสลายส่วนประกอบต่างๆ ที่อยู่ในผิว เช่น คอลลาเจน อีลาสติน ที่มีคุณสมับติช่วยให้ผิวของคุณเรียบเนียน โดยรังสีเหล่านี้ยังส่งผลต่อเซลล์สร้างเม็ดสี ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีผิวในที่สุด ซึ่งยิ่งเมื่อคุณแก่ตัวลงไป ผิวของคุณเมื่อเจอแสงแดดมากๆ ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาจะเกิดขึ้นบนผิวในรูปแบบของริ้วรอย จุดด่างสีนํ้าตาล และโรคผิวหนังต่างๆ

เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายของผิวหนังที่อาจเกิดขึ้นจากแสงแดด แพทย์ผิวหนังแนะนำให้คุณอยู่ห่างจากแสงแดดที่แรงที่สุด โดยสวมชุดป้องกันเช่นหมวก และใช้ครีมกันแดดที่สามารถป้องกันรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า 30+ ขึ้นไปและทาทุก 2 ชั่วโมงเพื่อการปกป้องสูงสุด

 

  1. อนุมูลอิสระ

วิธีที่แสงแดดจะทำลายผิวของคุณคือการผลิตสารอันตรายที่เรียกว่าอนุมูลอิสระซึ่งเป็นโมเลกุลของออกซิเจนที่ไม่เสถียรด้วยอิเล็กตรอนตัวเดียว ในระยะสั้นๆ แสงอัลตราไวโอเลตหรือเรียกว่าแสงยูวีที่มาจากดวงอาทิตย์ จะนำไปสู่ดีเอ็นเอที่ถูกทำลายจนเสียหายได้ อนุมูลอิสระอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ นอกจากนี้ยังมีผลจากการสัมผัสพวกยาสูบ หรือบุหรี่ และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางชนิดมีสารต้านอนุมูลอิสระเช่นวิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งช่วยลดผลกระทบที่เกิดกับผิวได้ การรับประทานผักและผลไม้สดจำนวนมาก โดยเฉพาะผลเบอร์รี่ บร๊อคโคลี แครอทและผักโขม ก็ช่วยส่งเสริมสุขภาพผิวได้

 

  1. การสูบบุหรี่

โดยรวมแล้วผิวของผู้สูบบุหรี่ไม่ค่อยแข็งแรงและมีแนวโน้มเกิดริ้วรอยได้ง่าย เพราะส่งผลให้หลอดเลือดของคุณตีบและแคบลด อีกทั้งยังไปลดปริมาณสารอาหารและออกซิเจนที่จะเข้าผิวหนังและหลอดเลือดให้มีสุขภาพดี ซึ่งทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและไม่สามารถกลับเข้ารูปได้อย่างง่ายดาย การขาดสารอาหารนี้ยังทำให้ผิวหนังรักษาได้ยากขึ้นเมื่อผิวของคุณมีบาดแผล เช่นเดียวกันในผู้หญิงที่สูบบุหรี่จะทำให้ฮอร์โมนแอสโตรเจนลดลงทำให้ผิวหนังแห้งนั่นองค่ะ

  1. สารระคายเคือง

สารเคมีบางชนิดในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและนํ้ายาซักผ้าอาจทำให้ผิวแดงระคายเคืองและก่อให้เกิดการแพ้ เช่น แอมโมเนียและสารฟอกขาวมีแนวโน้มให้ผิวระคายเคือง สารเคมีต่างๆ ทำให้ผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสและระคายเคือง บางครั้งอาจเกิดเป็นแผลไหม้จากสารเคมีได้ นอกจากนั้นยังมีสารอีกว่า 3,000 ชนืดในสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เราเกิดอาการแพ้ วิธีง่ายที่สุดในการปกป้องผิวของคุณคือหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยสวมถึงมือเมื่อคุณทำความสะอาดหรือล้างจาน รวมทั้งเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองน้อยกว่า นอกจากนี้การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวสามารถช่วยได้ หรือในบางรายอาจต้องใช้สเตียรอยด์เพื่อช่วยในการรักษา

  1. การยิ้มและขมวดคิ้ว

เมื่อคุณอายุมากขึ้นผิวของคุณจะสูญเสียความยืดหยุ่นซึ่งหมายถึงการสูญเสียความสามารถในการกลับเข้าที่เดิมหลังจากที่คุณแสดงออกทางสีหน้าเหมือนตอนที่คุณยังเด็กกว่านี้ ดังนั้นด้วยเหตุนี้ผิวของคุณจึงมีแนวโน้มที่จะมีริ้วรอยแม้ว่าคุณจะไม่ได้ขมวดคิ้วหรือหัวเราะก็ตาม
และถึงว่าคุณจะไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการแสดงออกบนใบหน้าแต่คุณก็สามารถต่อสู้กับริ้วรอบโดยการป้องกันการทำร้ายผิวจากแสงแดดโดยใช้ครีมกันแดด คุณอาจลองใช้ครีมลดริ้วรอยที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์หรือตามใบสั่งแพทย์ หรือยาทาอื่นๆ เพื่อปรับผิวให้เรียบเนียน นอกจากนี้ยังมีขี้นตอนมากมายในการลดริ้วรอย ได้แก่ ไมโครเดอร์มาเบรชั่น เป็นการลอกผิวด้วยสารเคมี การผลัดผิวด้วยเลเซอร์ และฟิลเลอร์แบบแีด เช่น คอลลาเจน เป็นต้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *