ได้ยินกันบ่อยเหมือนกันว่าอย่าอาบน้ำบ่อยมันไม่ดี เพราะจริง ๆ แล้วประเทศอื่นอาบน้ำกันน้อยมากถ้าเทียบกับบ้านเราแล้ว อาจจะเป็นเพราะบ้านเราเป็นเมืองร้อน และมีมลภาวะมากเหลือเกิน ทั้งฝุ่นควันต่าง ๆ ถ้าไม่อาบน้ำคงแย่แน่ ๆ แต่ขอบอกไว้หน่อยแล้วกันค่ะว่า เพราะอะไรเขาถึงมีวิจัยเรื่องการอาบน้ำบ่อยเกินไปไม่ดีออกมากัน ลองมาดูกันว่าการอาบน้ำเกินความจำเป็นเกิดผลเสียอะไรกับผิวบ้าง
ผิวขาดความชุ่มชื้น
การอาบน้ำบ่อยและนานเกินไป เป็นสาเหตุทำให้น้ำในผิวระเหยออกไปได้ค่ะ นั่นหมายความว่าความชุ่มชื้นถูกดึงออกไปด้วย สุดท้ายแล้วผิวก็จะแห้งและแตกได้ ซึ่งข้อนี้ต้องระวังเพราะผิวแห้งเกินไปก็เกิดริ้วรอยได้ และยังทำให้ผิวระคายเคืองด้วยค่ะ
ทำลายน้ำมันธรรมชาติ
ใต้ผิวหนังของเราก็มีชั้นไขมันอยู่ ซึ่งถ้าไม่มากเกินไปมันก็เป็นน้ำมันธรรมชาติที่ได้สมดุลดีค่ะ ซึ่งการอาบน้ำบ่อยเกินไปจะทำให้น้ำมันธรรมชาติถูกทำลายไปด้วย น้ำมันที่คอยหล่อเลี้ยงผิวไม่ให้แห้งและเกิดริ้วรอยถูกทำลายไป ทีนี้แย่เลยนะคะ
ฆ่าแบคทีเรียดี
เวลาอาบน้ำเราก็ต้องใช้สบู่ทำความสะอาดผิวทุกครั้งใช่ไหมล่ะ จริง ๆ แล้วเคยสงสัยไหมว่าหลังตื่นนอนทำไมเราต้องใช้สบู่อาบน้ำ ทั้ง ๆ ที่เนื้อตัวก็ไม่ได้สกปรกเลย และนี่แหละที่เขาวิจัยกันออกมาว่า สบู่เป็นตัวการฆ่าแบคทีเรียดีที่คอยปกป้องผิว ทำให้ผิวระคายเคืองง่ายเกินไปด้วย เพราะฉะนั้นเราใช้เฉพาะตอนเนื้อตัวสกปรกจริง ๆ ก็พอค่ะ
เชื้อโรครุกราน
เวลาหลังอาบน้ำเราลองสังเกตดูสิคะว่าผิวจะมีความแดง บางคนแดงเป็นปื้น ๆ ให้รู้ไว้เลยว่าผิวเราบอบบางมากในตอนนั้น ซึ่งเป็นช่องทางให้เชื้อโรคต่าง ๆ รุกรานสู่ผิวของเราได้ง่าย ดังนั้นเราอาบน้ำตามความจำเป็นก็เพียงพอแล้วค่ะ
อ่านแล้วรู้สึกไม่อยากอาบน้ำกันเลยใช่ไหมล่ะ แต่อย่างที่บอกว่าบ้านเราคงทำไม่ได้ เพราะเหงื่อไหลไคลย้อยกันอย่างหนักเมื่อออกจากบ้านแต่ละครั้ง แต่ถ้าใครที่ปกติกลางคืนนอนห้องแอร์ เช้าตื่นขึ้นมาไม่ต้องถูสบู่ก็ได้นะคะ อาบน้ำให้รู้สึกสดชื่นก็เพียงพอ จะได้ช่วยถนอมผิวเราเองด้วยค่ะ