“โสดอยู่ตัวคนเดียวถ้าเจอไม่ดีไม่มีดีกว่า อยากรักก็อยากนะแต่รักใครก็มีแต่ช้ำใจ เจอะแต่คนใจร้าย เฮ้อ! ไอ้ที่ว่าดีไม่รู้อยู่ไหนแต่สุดท้ายฉันเองก็ยังคงหายใจ”
หลายคนยามนี้อาจขอเลือกการอยู่กับตนเองเป็นหลัก ไม่ว่าจากสาเหตุที่มีสถานะทางสังคมดีกว่า หรือเลือกมากขึ้น แต่ก็นั่นล่ะ ถึงจะแฮปปี้แค่ไหน แต่ความเสี่ยงของคนโสดมันก็มีอยู่
ปณิธานที่แรงกล้า ในการขออยู่เป็นโสดมีมากขึ้นเยอะจริง ๆ รวมทั้งคนที่ไม่เต็มใจจะโสดก็เถอะ นี่อาจเป็นประเด็นที่ส่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่ทั่วโลก ในยามที่สังคมให้ค่านิยมของการมีคู่ลดลงไป และเมื่อบริบทของสังคมเปลี่ยนไปเช่นนี้ หลายคนตัดสินใจครองตัวเป็นโสดจึงอาจต้องเตรียมตัวอีกสักนิด เพราะความโสดก็มีความเสี่ยงบางประการใครพร้อมกว่า บอกได้เลยว่าเราจะโสดอย่างมีความสุข
ความเสี่ยงทางด้านสุขภาพและจิตใจ โรคที่มาพร้อมกับความโสดนั้นมีอยู่ หมั่นตรวจสุขภาพบ่อย ๆ ดูแลร่างกายให้แข็งแรงเสมอจะได้ห่างไกลจากโรคเหล่านี้…
ความเสี่ยงที่ 1 : มะเร็งเต้านมและรังไข่
ความเสี่ยงอันดับต้น ๆ ที่เกิดกับผู้หญิงที่เป็นโสด ผู้หญิงที่แต่งงานและมีการตั้งครรภ์จะมีตัวช่วยในการลดความเสี่ยงนี้ตามกลไกธรรมชาติ เพราะระยะเวลาของการตั้งครรภ์จะเป็นช่วงที่ร่างกายไม่ถูกกระตุ้นจากฮอร์โมนเพศที่จะทำให้เซลล์เกิดแบ่งตัวเป็นเซลล์มะเร็ง แต่ในสภาพสังคมที่ครอบครัวนิยมคุมกำเนิด และมีบุตรจำนวนน้อยลง การมีคู่ไม่มีลูกก็นับเป็นความเสี่ยงเช่นเดียวกัน
ความเสี่ยงที่ 2 : โรคอัลไซเมอร์และความดันโลหิตสูง
ความเดียวดายจากการต้องใช้ชีวิตลำพังทำให้สาวโสดมีความเสี่ยงที่จะเป็นอัลไซเมอร์มากกว่าคนปกติถึงสองเท่าเมื่อมีอายุมากขึ้น นอกจากนั้นอารมณ์วิตกและความรู้สึกโดดเดี่ยวก็สัมพันธ์กับโรคความดันโลหิตสูงซึ่งนำไปสู่โรคหัวใจและอีกหลาย ๆ โรคที่เกี่ยวข้องกัน
ความเสี่ยงที่ 3 : โรคเครียดและซึมเศร้า
ชีวิตคู่ที่ราบรื่นประคับประคองกันและกันในด้านอารมณ์ทำให้เกิดจิตใจที่ดี ในที่นี้ยังรวมถึงความสุขจากการเมกเลิฟด้วย แต่หากคนโสดบอกว่าฉันก็หาความสุขจากเรื่องนี้ได้ ประเด็นนี้อาจตกไปแต่อย่างไรก็ตามก็ควรลดความเสี่ยงด้วยการมีคู่นอนเพียงคนเดียวจะดีที่สุด
รู้กันป่ะ????
สำนักสถิติประเทศสหรัฐอเมริกา เก็บผลสำรวจจากประชากรกว่าแสนคนพบว่า คนโสดจะมีอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ จากความเครียดมากกว่าคนมีคู่ และพบว่ากลุ่มคนโสดที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจะมีปัญหาด้านสุขภาพร้อยละ 11.9 เทียบกับผู้ที่มีคู่ครองจะมีปัญหาด้านสุขภาพร้อยละ 10.5
