การแบ่งมื้ออาหารตามช่วงเวลานั้นอาจไม่ได้ให้ความแตกต่างในเรื่องของปริมาณแคลอรี่แต่ว่ามันก็ส่งผลอย่างมากต่อระดับความอยากอาหาร ถ้าเราแบ่งมื้อการกินมากขึ้นก็ช่วยให้เรารู้สึกโหยน้อยลงและมีแนวโน้มที่จะกินน้อยลงด้วยเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี แม้ว่ามันจะไม่มีผลต่อแคลอรี่แต่ก็มีผลต่อการออกกำลังกาย เรารู้ว่าการกินมากเกินไปก่อนการออกกำลังกายนั้นส่งผลต่อเป้าหมายในวันอย่างแน่นอน

ดังนั้น ช่วงเวลาอาหารกับการออกกำลังจึงสัมพันธ์กันอย่างเลี่ยงไม่ได้ หากเราต้องการให้การออกกำลังกายนั้นมีประสิทธิภาพและเห็นผลมากขึ้น

บางคนก็เกิดคำถามว่า ถ้าเราไม่ได้เป็นคนที่ออกกำลังกายช่วงเช้าหรือเย็นของวัน แต่เป็นช่วงเวลาอื่นๆ จะใช้หลักการเดียวกันได้หรือไม่? 

สดสวยตอบได้เลยว่าไม่ว่าเพื่อนๆ จะมีช่วงเวลาของการออกกำลังกายเป็นตอนไหนก็แล้วแต่ แต่จะต้องให้เป็นการออกกำลังกายหลังจากมื้ออาหารอย่างต่ำ 2 ชั่วโมง และการกินอาหารมากเกินไปก่อนการออกกำลังกายก็จะทำให้เพื่อนๆ รู้สึกไม่สบายท้องและซึมลงค่ะ เพราะว่าการออกกำลังกายจะไปขัดขวางกระบวนการย่อยนั่นเอง

แล้วของว่างก่อนออกกำลังกายกินได้หรือไม่?

ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า เราสามารถกินขนมขบเคี้ยวเล็ก ๆ หนึ่งชั่วโมงก่อนออกกำลังกายไดนะ แต่มันจะต้องเป็นคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนที่มีแคลอรี่จำกัดอยู่ในตัวเลขไม่เกิน 200 แคลอรี่ ดังนั้น หากเพื่อนๆ ไม่มั่นใจก็ควรเลี่ยงจะดีที่สุดค่ะ แต่อย่างไรก็ดีต้องไม่เกิน 3 ชั่วโมงหลังจากมื้ออาหาร เพราะนั่นหมายถึงท้องของเพื่อนๆ จะว่าง ทำให้แรงไม่ถึงได้เหมือนกันนะ

แต่หากเป็นการออกกำลังกายช่วงเช้า หรือหลังตื่นนอน แนะนำว่าให้กินของว่างเหล่านี้เพื่อป้องกันท้องว่างก่อนออกกำลังกาย แต่ก็คือเงื่อนไขเดิมต้องไม่เกิน 200 แคลอรี่

สรุป

• ควรออกกำลังกายหลังจากมื้ออาหาร อย่างต่ำ 2 ชั่วโมง และไม่ควรเกิน 3 ชั่วโมงค่ะ
• ทานของว่างก่อนออกกำลังได้ แต่ต้องเป็นโปรตีนไม่เกิน 200 แคลอรี่