เรื่องช่องปากและฟันที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องดูแล

0

ข้อควรรู้เกี่ยวกับเรื่องช่องปากและฟันกับคุณแม่ตั้งครรภ์

dentalpreg (1)

  • จากการศึกษาพบว่าหญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากคราบพลัคที่ก่อตัวที่ฟัน และสร้างความระคายเคืองให้แก่เหงือก อาการที่บ่งบอกของโรคนี้คือ อาการบวมแดง และเลือดออกบริเวณเหงือก
  • โรคเหงือกอักเสบในหญิงตั้งครรภ์เกิดได้บ่อยเนื่องจากการเพิ่มของระดับฮอร์โมนที่ทำให้เหงือกเกิดอาการระคายเคืองต่อคราบพลัคที่รุนแรงกว่าปกติ อย่างไรก็ตามสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคเหงือกอักเสบก็คือ คราบพลัค ไม่ใช่ปริมาณของฮอร์โมนในร่างกาย
  • มีหลักฐานหลายประการที่บ่งขี้ให้เห็นความเชื่อมโยงระหว่างโรคเหงือกและการคลอดก่อนกำหนด และทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักต่ำกว่ามาตราฐาน หญิงตั้งครรภ์ที่มีปัญหาโรคเหงือกมีโอกาสสูงที่จะคลอดก่อนกำหนด หรือให้กำเนิดทารกที่ตัวเล็กกว่าปกติ

ดูแลสุขภาพช่องปากและฟันอย่างไรระหว่างการตั้งครรภ์

dentalpreg (3)

  • ควรหมั่นไปตรวจเช็คสุขภาพฟันเป็นประจำ และรับการรักษาปัญหาในช่องปากที่มีให้หายขาดก่อนที่จะตั้งครรภ์
  • ในระหว่างการตั้งครรภ์ ฟันและเหงือกของคุณแม่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ การทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และการหมั่นตรวจเช็คสุขภาพฟันเป็นประจำจะช่วยลดการเกิดปัญหาทางทันตกรรมระหว่างการตั้งครรภ์ได้ค่ะ
  • การหมั่นดูแลรักษาฟันให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะบริเวณขอบเหงือก จะช่วยได้อย่างมากในการลด หรือแม้แต่ป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหงือกอักเสบระหว่างการตั้งครรภ์ นอกจากนั้นการทานอาหารที่ทดแทนของหวาน อย่างเช่น เนย ผักและผลไม้สด จะเป็นผลดีต่อสุขภาพฟันของคุณแม่นะคะ

เมื่อไปพบทันตแพทย์ระหว่างการตั้งครรภ์

dentalpreg (2)

  • คุณแม่ควรแจ้งให้ทันตแพทย์รู้ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์อยู่ คุณควรจะไปพบทันตแพทย์ในช่วงที่อายุครรภ์อยู่ในช่วง 4-6 เดือน เนื่องจากในช่วง 3 เดือนแรก เป็นช่วงเวลาสำคัญของทารกในครรภ์ที่จะทำการพัฒนาส่วนต่างๆของร่างกาย ในช่วงสามเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ ความเครียดที่เกิดจากการเข้าพบทันตแพทย์สามารถที่จะเพิ่มโอกาสในการเกิดความยุ่งยากต่อทารกในครรภ์ได้
  • โดยปกติแล้ว การเอ็กซ์เรย์ การใช้ยาชาในการทำฟัน การทานยาแก้ปวด หรือ การใช้ยาปฏิชีวนะ โดยเฉพาะตัวยาในกลุ่มเททร้าไซคลินเป็นสิ่งที่แพทย์ไม่ควรทำในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ นอกจากว่าจะเป็นภาวะจำเป็นจริงๆ ในระหว่าง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ การต้องไปนั่งรอนานๆในคลินิกทันตกรรมถือเป็นเรื่องที่ไม่สะดวกสบายนักสำหรับหญิงมีครรภ์ นอกจากนั้นยังมีหลักฐานยืนยันว่าหญิงตั้งครรภ์มักจะหงุดหงิดง่าย ดังนั้นทันตแพทย์ควรเตรียมพร้อมรับมือต่ออารมณ์นี้

หากคุณแม่มีความสงสัยหรือความกังวลใด คุณควรปรึกษาทั้งทันตแพทย์และแพทย์ประจำตัวของคุณ เพื่อช่วยเหลือคุณ หากทันตแพทย์มีการสั่งยาไปให้ทานในการรักษา ไม่ควรทานยาเกินปริมาณที่สั่งจ่าย ถึงแม้ว่ายาตัวนั้นจะเป็นเพียงแค่ยาแอสไพรินก็ตามค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *