“เด็กพิเศษ” คือ เด็กที่ต้องการความช่วยเหลือ ดูแลเป็นพิเศษกว่าคนทั่วไป ซึ่งแต่ละกลุ่มก็ต้องการดูแลที่แตกต่างกันไป สิ่งสำคัญนอกจากการดูแลลูกรักอย่างใกล้ชิด และพาไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอแล้ว ควรให้เด็กน้อยได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย ก็จะช่วยให้เด็กพิเศษสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ดีขึ้นค่ะ
โดย “เด็กพิเศษ” แบ่งเป็น เด็กที่มีปัญหาทางร่างกาย เด็กสมาธิสั้น เด็กดาวน์ซินโดรม เด็กที่มีปัญหาการเรียนรู้ เด็กออทิสติก เด็กพิการทางสมอง เด็กพิการซ้ำซ้อน และ เด็กปัญญาเลิศ ซึ่งแต่ละกลุ่มก็ต้องการดูแลที่แตกต่างกันไป ในส่วนของกิจกรรมในการช่วยบำบัดฟื้นฟู “เด็กพิเศษ” นั้นมีหลากหลาย
โดยกิจกรรมที่น่าสนใจซึ่งได้คัดสรรและรวบรวมจาก “สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์” จ.เชียงใหม่ มีดังนี้
ศิลปะบำบัด
โดยศิลปะจะเข้ามาช่วยในด้านการพัฒนาอารมณ์ สติปัญญา สมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และการประสานงานการเคลื่อนไหวของร่างกาย ตลอดจนช่วยกระตุ้นการสื่อสาร และเสริมสร้างทักษะทางสังคม โดยมีการใช้ทั้งการวาด ระบายสี มาช่วยส่งเสริมพัฒนาการ
ดนตรีบำบัด
โดยดนตรีจะเข้ามาช่วยกระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆ ให้กับเด็ก เช่น ช่วยเสริมการเคลื่อนไหวร่างกายในการฟื้นฟูสมรรถภาพ ลดพฤติกรรมก้าวร้าว รุนแรง อยู่ไม่นิ่ง สำหรับสถาบันพัฒาการเด็กราชนครินทร์ มีการใช้เทคโนโลยี “Optic music” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สร้างแรงจูงใจในการเคลื่อนไหวร่างกาย ด้วยการบูรณาการระบบประสาทการได้ยิน การมองเห็น และการสัมผัส
ละครบำบัด
จะช่วยในการฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย การเคลื่อนไหว การใช้กล้ามเนื้อทั้งมัดเล็กและมัดใหญ่ พัฒนาทักษะทางภาษาให้สามารถเข้าใจและสื่อสารกับบุคคลอื่นได้ รวมถึงช่วยในการพัฒนาทักษะการช่วยเหลือตัวเอง และ การส่งเสริมพัฒนาการทางสังคมและการแสดงออก ได้สำรวจตัวเอง เรียนรู้การแสดงออกทางอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลาย
ธาราบำบัดและกิจกรรมบำบัด
สองกิจกรรมนี้จะช่วยในเรื่องของการฟื้นฟูสมรรถภาพและการเคลื่อนไหว ทั้งกลุ่มเด็กสมาธิสั้น เด็กออทิสติก และเด็กที่มีความบกพร่องทางการรับรู้ โดยสระธาราบำบัดจะอาศัยแรงพยุงของน้ำเป็นตัวช่วยในการเคลื่อนไหวร่างกายของเด็ก โดยจะมีนักกายภาพบำบัดคอยประกบและช่วยนำการเคลื่อนไหวแก่เด็กภายในสระ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ส่วนห้องกิจกรรมบำบัดจะเป็นเหมือนห้องเด็กเล่น ที่เปิดโอกาสให้เด็กได้เข้ามาเล่นอย่างอิสระ
ที่สำคัญหากสามารถคัดกรอง วินิจฉัย และส่งเสริมพัฒนาการได้รวดเร็วตั้งแต่ช่วงขวบปีแรกๆ ก็จะช่วยให้เด็กพิเศษเหล่านี้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติค่ะ