ช่วงปิดเทอมพฤติกรรมการกินอาหารของเจ้าตัวซนอาจเปลี่ยนไป โดยเด็กมักจะชื่นชอบอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล ไขมัน รวมทั้งจั๊งค์ฟู้ดต่าง ๆ การที่พ่อแม่วุ่นกับการทำงานอาจทำให้ไม่ได้ดูแลเรื่องการกินของลูก เด็กน้อยจึงกินอาหารโปรดเหล่านี้ในปริมาณมาก และใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับการดูทีวี เล่นเกม มีการเคลื่อนไหวน้อยลง ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนได้
วิธีดูแลลูกน้อยวัยซนในช่วงปิดเทอมเพื่อป้องกันความเสี่ยงโรคอ้วน
- พ่อแม่ผู้ปกครองควรจัดอาหารให้มีคุณค่าและถูกหลักโภชนาการ ทั้งปริมาณและความเหมาะสมกับวัย โดยให้เจ้าตัวซนกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ มีความหลากหลาย เน้น ผัก ผลไม้ นมสดรสจืด และไข่ เพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโตทั้งร่างกายและสมอง ใน 1 วัน รวมถึงเลือกให้เหมาะสมกับอายุและการเจริญเติบโตของเด็ก
- พ่อแม่ผู้ปกครองควรจัดอาหารโดยลด หวาน มัน เค็ม ปรุงรสให้น้อยที่สุด หากใช้เกลือหรือเครื่องปรุงรสอื่น ๆ ควรเลือกแบบเสริมไอโอดีน
- หากเด็กไม่ชอบกินผัก ให้เลือกผักรสชาติไม่ขม เช่น แครอท บล็อกโคลี ฟักทอง อาจสับละเอียดเข้ากับอาหารเพื่อฝึกให้เด็กได้กินผัก
- พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรเปิดโอกาสให้ลูกเสนอเมนูอาหารที่ชอบในแต่ละวัน รวมถึงอาจหาสูตรอาหารหรือขนมง่าย ๆ ที่สามารถทำร่วมกันทั้งครอบครัวได้ ฝึกให้เด็กช่วยปรุงอาหาร เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม
- ฝึกลูกให้กินอาหารตรงเวลา ไม่กินจุบจิบ ไม่กินขนมก่อนกินอาหารมื้อหลัก เพราะจะทำให้อิ่มจนไม่สามารถกินอาหารมื้อหลักได้
- อาหารว่างที่ดี ควรควบคุมประมาณน้ำมัน น้ำตาล และเกลือไม่ให้สูงเกินไป หลีกเลี่ยงอาหารทอด อาหารรสจัด ขนมกรุบกรอบ แนะนำให้เลือกผลไม้สดรสไม่หวานมาก เช่น กล้วย ส้มเขียวหวาน แตงโม หรือขนมไทยรสหวานน้อย เช่น ขนมถั่วแปป ข้าวต้มมัด หรือของว่างที่ทำจากธัญพืชหรือนม เช่น ถั่วลิสงต้ม ธัญพืชอบกรอบ โยเกิร์ต
- ดูแลให้เจ้าตัวซนดื่มน้ำสะอาด 6 – 8 แก้วต่อวัน
- ดูแลให้ลูกนอนหลับสนิทเพียงพอ วันละ 9–11 ชั่วโมง เพื่อช่วยพัฒนาสมรรถภาพหัวใจ สมอง การเจริญเติบโต ให้สมวัย สูงสมส่วน และแข็งแรง
- พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรเพิ่มกิจกรรมทางกายและส่งเสริมให้ออกกำลังกาย เช่น การเล่น วิ่ง กระโดดเชือก กระโดดโลดเต้น จนเหนื่อยหอบ อย่างน้อย 60 นาทีทุกวัน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและ ความอ่อนตัวของกล้ามเนื้อ อย่างไรก็ตาม การให้ลูกทำกิจกรรมทางกายต่าง ๆ ต้องอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุขณะออกกำลังกายด้วย
หากช่วงนี้พ่อแม่ทำงานอยู่กับบ้าน แนะนำให้เพิ่มกิจกรรมการออกกำลังกายร่วมกันในครอบครัว เพราะนอกจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงลดเสี่ยงโรคอ้วนแล้ว ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ของครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอีกด้วยค่ะ