โรคไอพีดี เป็นโรคติดเชื้อชนิดรุนแรงในเด็ก สาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า นิวโมคอคคัส ที่อาศัยอยู่ในโพรงจมูกและคอ ซึ่งสามารถติดต่อซึ่งกันและกันโดยผ่านการไอ จามหรือสัมผัสสิ่งคัดหลั่ง เหมือนกับการแพร่เชื้อไข้หวัดธรรมดา แต่ผู้ป่วยจะมีอาการรุนแรงกว่าไข้หวัด และอาจถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะเด็กเล็กอายุ 2 ปี ยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคนี้
ข้อมูลจาก นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ระบุว่า การรักษาโรคไอพีดี ถ้าเป็นการติดเชื้อไม่รุนแรง เช่น คออักเสบ หูน้ำหนวก หรือไซนัสอักเสบสามารถรักษาโดยการรับประทานยา แต่ถ้าติดเชื้อแบบลุกลามต้องให้ยาปฏิชีวนะ ทางเส้นเลือด ระดับความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ติดเชื้อ ได้แก่
- การติดเชื้อในระบบประสาท เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เด็กจะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง คลื่นไส้อาเจียน คอแข็ง ส่วนในเด็กทารกจะร้องงอแง ซึม ไม่กินนม และชักได้ ถ้ารักษาไม่ทันท่วงทีอาจพิการ หูหนวก ปัญญาอ่อน หรือเสียชีวิต
- การติดเชื้อในกระแสเลือด เด็กจะมีอาการไข้สูง ร้องกวนงอแง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ช็อก เสียชีวิต นอกจากนี้ เชื้ออาจกระจายไปสู่อวัยวะอื่น ๆ เช่น เยื่อหุ้มสมอง ปอด กระดูกและข้อ เป็นต้น
- การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หูน้ำหนวก เด็กจะมีอาการไข้สูง บ่นปวดหู งอแง ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจลุกลามไปอวัยวะข้างเคียงหรือสมอง หูน้ำหนวกเรื้อรัง แก้วหูทะลุ และการได้ยินบกพร่อง ซึ่งมีผลต่อพัฒนาการด้านภาษาของเด็กด้วย
- การติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนกลาง เช่น ปอดอักเสบ เด็กจะมีไข้ ไอ หายใจเร็ว หอบ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และเสียชีวิตหากได้รับการรักษาล่าช้า
วิธีป้องกันโรคไอพีดีในเด็ก มีดังนี้
- ควรให้เบบี๋กินนมแม่ เพื่อให้มีภูมิต้านทานจากแม่ไปสู่ลูกทางอ้อม
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอพีดี (เป็นวัคซีนเสริม) ปัจจุบันมีวัคซีนในการป้องกันอยู่ 2 แบบ แบบแรกป้องกันได้ 13 สายพันธุ์ ซึ่งครอบคลุมเชื้อได้มากกว่า อีกแบบหนึ่งป้องกันได้ 10 สายพันธุ์ ซึ่งแม้จะป้องกันโรคได้น้อยกว่า แต่ก็สามารถป้องกันหูอักเสบได้ดีกว่า แนะนำให้ฉีดวัคซีนนี้ในช่วงอายุ 2 เดือน และฉีดต่อเนื่องอีก 2 ครั้ง ในช่วงอายุ 4 เดือน และ 1 ปี
- ระวังอย่าให้เบบี๋โดนฝนหรืออากาศหนาว ไม่ควรพาทารกน้อยไปในที่ที่มีผู้คนแออัด หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้คนป่วย ดูแลสุขภาพลูกน้อยให้แข็งแรงเสมอ รวมถึงรักษาความอบอุ่นให้เด็ก และให้เด็กออกกำลังกายให้เหมาะสมตามช่วงวัย
ทั้งนี้ หากเบบี๋มีอาการซึม มีไข้สูง หงอย ดูเหมือนป่วย ให้สงสัยไว้ก่อนว่าติดเชื้อไอพีดี พ่อแม่ผู้ปกครองควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที