สายด่วนสุขภาพจิต 1323 เปิดให้บริการเพื่อคลี่คลายทุกข์ทางใจเบื้องต้น โดยปัญหาที่คนโทรเข้ามามีหลากหลาย อาทิ ปัญหาทางจิตเวช ความเครียด ความรัก ครอบครัว ว่าแล้วเรามาเช็คสถิติกันดีกว่า ว่าแต่ละช่วงวัยส่วนใหญ่มีปัญหาด้านใดบ้าง จะได้นำไปสังเกตสมาชิกในครอบครัวเพื่อเตรียมพร้อมรับมือค่ะ
พญ.มธุรดา สุวรรณโพธิ์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กทม. กล่าวว่า
ขณะนี้สถาบันฯ ได้ปรับระบบบริการสายด่วนสุขภาพจิต 1323 เป็น 2 ระบบ คือ เพิ่มคู่สายบริการเป็น 12 คู่สาย บริการตลอด 24 ชั่วโมง และเพิ่มบริการทางเฟซบุ๊ก 1323 เพื่อแชตให้การปรึกษา โดยให้บริการตั้งแต่เวลา 6.30 – 22.30 น. ไม่มีวันหยุด เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน
ผลการให้บริการในปี 2560 มีทั้งหมด 62,418 สาย ผู้ใช้บริการเป็นหญิงมากกว่าชาย 2 เท่าตัว!
ในภาพรวมกลุ่มประชาชนทั่วไป ปัญหาที่ปรึกษามากที่สุด 6 อันดับแรก
- อันดับ 1 ได้แก่ ปัญหาการเจ็บป่วยจิตเวช ร้อยละ 39 ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยเก่าที่มีปัญหาก้าวร้าว ขาดยา หรือมีผลข้างเคียงจากการใช้ยา
- อันดับ 2 เรื่องความเครียดหรือวิตกกังวล ร้อยละ 35
- อันดับ 3 ปัญหาความรักร้อยละ 9 อันดับ
- 4 ปัญหาครอบครัว ร้อยละ 5
- อันดับ 5 ปัญหาซึมเศร้า ร้อยละ 4
- อันดับ 6 คือ ปัญหาเรื่องเพศร้อยละ 3 ส่วนที่เหลืออื่นๆ ได้แก่ ปัญหาพฤติกรรม ปัญหาการทำงาน มีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งพบ 425 คน และปัญหาการพนัน
สำหรับในกลุ่มวัยรุ่น อายุ 15 – 21 ปี ซึ่งใช้บริการสายด่วนร้อยละ 16 เรื่องที่โทร.ปรึกษามากที่สุด 6 อันดับแรก อันดับ 1 ได้แก่ มีความเครียดหรือวิตกกังวลเรื่องการปรับตัว เรื่องเพื่อน เป็นต้น ร้อยละ 53 อันดับ 2 ปัญหาความรัก ร้อยละ 22 อันดับ 3 ปัญหาเรื่องเพศ ร้อยละ 6 อันดับ 4 เรื่องซึมเศร้า ร้อยละ 5 อันดับ 5 ปัญหาทางจิตเวชร้อยละ 5 และอันดับ 6 เรื่องปัญหาครอบครัวร้อยละ 4
ที่เหลือเป็นปัญหาอื่นๆ ได้แก่ เรื่องการเรียน ปัญหาพฤติกรรม ปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อม และมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งมีจำนวน 94 คน ในส่วนการให้บริการแช็ตข้อความทางเฟซบุ๊ก 1323 อันดับ 1 ได้แก่ การขอรับคำปรึกษาเรื่องความเครียด หรือวิตกกังวลร้อยละ 60 รองลงมาคือ ปัญหาซึมเศร้าร้อยละ 11 ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน
อย่าปล่อยให้ปัญหาต่างๆ สะสมจนบั่นทอนจิตใจ ลองปรึกษาหรือระบายออกกับครอบครัว คนสนิท หรือใช้บริการสายด่วนสุขภาพจิตดูนะคะ เพื่อให้พื้นที่ความสุขในชีวิตของคุณกลับคืนมาค่ะ