หน้ากากอนามัยกันโควิด-19 จำเป็นแค่ไหนกับเบบี๋?

0

ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นอกจากกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ และหญิงหลังคลอดแล้ว ทารกแรกเกิดและเด็กเล็ก ถือเป็นอีกกลุ่มเสี่ยงที่ต้องให้ความสำคัญในการป้องกันเป็นพิเศษ เราทราบกันดีว่าหนึ่งในวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพคือการสวมหน้ากากอนามัย คำถามคือ เบบี๋จำเป็นต้องสวมหน้ากากไหม?

90

 

แม้การสวมหน้ากากอนามัยจะเป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันตัวเองและช่วยป้องกันไม่ให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019แพร่กระจายสู่คนอื่นได้ แต่ก็ไม่ใช่กับทุกคน กล่าวคือ ต้องดูสภาพร่างกายของผู้ที่จะสวมใส่ด้วย เนื่องจากบางช่วงอายุระบบต่าง ๆ ในร่างกายอาจจะไม่แข็งแรงพอ ทั้งนี้ ควรเลือกสวมหน้ากากป้องกันให้กับเด็กที่เหมาะสมตามช่วงอายุเมื่อจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ดังนี้

  1. เด็กทารกแรกเกิด-1 ปี พ่อแม่ไม่ควรสวมหน้ากากให้ เพราะเด็กเล็กระบบการหายใจยังไม่แข็งแรงพอ เสี่ยงภาวะคาร์บอนไดออกไซด์คั่งได้ เนื่องจากทารกแรกเกิดหายใจทางจมูกเป็นหลัก ยังไม่มีความสามารถในการหายใจชดเชยด้วยการอ้าปากหายใจได้ เมื่อมีการขาดอากาศหรือออกซิเจนจะมีโอกาสเกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เกิดอันตรายต่อระบบประสาทของทารกได้ และในกรณีการใช้วัสดุพลาสติก บังหน้าทารก ความคมของพลาสติกอาจทำให้บาดใบหน้า และดวงตาของทารกได้
  2. เด็กอายุ 1-2 ปี เด็กบางคนสามารถถอดหน้ากากเองได้เมื่อรู้สึกอึดอัด หากจำเป็นต้องใส่หน้ากาก ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง และใส่เพียงระยะเวลาสั้นที่สุด
  3. เด็กอายุมากกว่า 2 ปี สวมใส่หน้ากากได้ เพราะสามารถถอดหน้ากากออกได้เมื่อรู้สึกอึดอัด ยกเว้นเด็กที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเด็กที่มีความบกพร่องทางสมอง พ่อแม่ควรให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

 

นอกจากการเลือกหน้ากากอนามัยให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเบบี๋แล้ว เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ควรดูแลเจ้าตัวเล็กดังนี้

 

  1. พ่อแม่ ผู้เลี้ยงเด็ก รวมถึงสมาชิกในครอบครัว ควรสร้างสุขอนามัยที่ดีด้วยการล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนสัมผัสทารก และสวมหน้ากากเสมอ
  2. หากพ่อแม่ ผู้เลี้ยงเด็ก รวมถึงสมาชิกในครอบครัว มีอาการไม่สบาย โดยเฉพาะมีอาการทางระบบหายใจ มีไข้ ไอ จาม งดเข้าใกล้ทารกเด็ดขาด
  3. ไม่ควรนำทารกแรกเกิดออกนอกบ้าน ยกเว้นการพาไปฉีดวัคซีนตามกำหนด หรือไปพบแพทย์เมื่อมีอาการป่วย โดยแนะนำให้อุ้มแนบกับอกหรือนำเด็กใส่รถเข็นที่มีผ้าคลุมปิด เว้นระยะห่างจากผู้อื่นในระยะ 2 เมตร อย่างเคร่งครัด
  4. พ่อแม่ ผู้เลี้ยงเด็ก รวมถึงสมาชิกในครอบครัว ควรงดการหอมแก้มเด็กและใกล้ชิดเด็กมากเกินไปเพราะละอองฝอยของน้ำลาย อาจก่อให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้

 

ที่สำคัญ พ่อแม่ควรเน้นการล้างมือบ่อย ๆ ให้กับเบบี๋เพราะเด็กมักจะหยิบเล่นของอยู่ตลอดเวลา อาจทำให้มือสัมผัสกับเชื้อโรคได้ รวมถึงเน้นการทำความสะอาดบ้านโดยเฉพาะบริเวณที่เด็กเล็กเล่นของเล่น

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *